‘เคมป์ซินสกี’ ซีอีโอแมคโดนัลด์ ผู้ไร้หุ้นในกำมือ
รู้หรือไม่? ซีอีโอคนใหม่ของแมคโดนัลด์ ไม่ได้ถือหุ้นในบริษัทแม้แต่หุ้นเดียว เพราะขายหุ้นทั้งหมดไปเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา แต่ภายในปลายปีหน้า เขาจะต้องควักเงินกว่า 220 ล้านบาทเพื่อซื้อหุ้นบริษัทอีกครั้ง
คริส เคมป์ซินสกี วัย 50 ปี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทแมคโดนัลด์ที่เข้ารับตำแหน่งแทน สตีฟ อีสเตอร์บรูค อดีตซีอีโอที่ถูกไล่ออกในสัปดาห์นี้ ฐานละเมิดกฎบริษัทกรณีมีสัมพันธ์กับพนักงาน ขายหุ้นทั้งหมดของเขาประมาณ 10,900 หุ้นไปเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะดำรงตำแหน่งประธานแมคโดนัลด์สหรัฐ
เอกสารที่แจ้งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ ระบุว่า มูลค่าหุ้นของเคมป์ซินสกีที่ขายไปครั้งนั้นอยู่ที่ประมาณ 4.44 ล้านดอลลาร์ หรือราว 134.5 ล้านบาท ก่อนหักภาษีจากการขาย
อย่างไรก็ดี แมคโดนัลด์ก็เหมือนกับบริษัทชื่อดังส่วนใหญ่ ที่มีกฎให้ผู้บริหารระดับสูงต้องถือหุ้นตามที่ระบุไว้ในแต่ละตำแหน่ง
ในกรณีนี้ ตำแหน่งซีอีโอของเคมป์ซินสกีกำหนดให้เขาต้องถือหุ้นแมคโดนัลด์มูลค่ารวม 7.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 227.3 ล้านบาท ภายในเดือน ต.ค. 2563 และต่อให้ไม่ถูกเลื่อนขั้นมานั่งเก้าอี้ซีอีโอและดำรงตำแหน่งประธานแมคโดนัลด์สหรัฐต่อไป เคมป์ซินสกีก็ยังต้องถือหุ้นบริษัทมูลค่า 2.9 ล้านดอลลาร์ (87.8 ล้านบาท) ภายในเส้นตายเดียวกัน
มูลค่าหุ้นที่แมคโดนัลด์กำหนดไว้ มากกว่าเงินเดือนของซีอีโอถึง 6 เท่า โดยอัตราเงินเดือนซีอีโอแมคโดนัลด์อยู่ที่ 1.25 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 37.8 ล้านบาท
แต่เคมป์ซินสกีไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อหุ้น 7.5 ล้านดอลลาร์ในครั้งเดียว ขณะนี้เขามีสิทธิซื้อขายหุ้นอยู่ราว 36,800 สิทธิที่สามารถใช้เวลาใดก็ได้
และหากคูณกับราคาหุ้นตอนปิดตลาดวันอังคาร (5 พ.ย.) ซึ่งอยู่ที่ 192.18 ดอลลาร์ จะทำให้เคมป์ซินสกีมีหุ้นมูลค่าประมาณ 7.07 ล้านดอลลาร์ แต่การซื้อหุ้นดังกล่าวจะทำให้เขามีค่าใช้จ่ายอีกราว 5 ล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน เคมป์ซินสกีมีโอกาสได้รับโบนัสเป็นหุ้นแมคโดนัลด์จำนวนมหาศาลในฐานะซีอีโอ โดยอีสเตอร์บรูค ซีอีโอคนก่อนได้โบนัสหุ้นมูลค่า 11.5 ล้านดอลลาร์เฉพาะในปี 2561 ปีเดียว แต่ซีอีโอจะถูกจำกัดสิทธิในการกำหนดเวลาขายหรือโอนหุ้นส่วนนี้