'ส.ว.' ติงร่างประมวลจริยธรรม ไม่เหมาะสมการทำงาน
“ส.ว.” ติงร่างประมวลจริยธรรม ไม่เหมาะสมการทำงาน แนะให้ทบทวน ก่อนรับหลักการ 187 เสียง พิจารณาต่อวาระสอง ภายใน 30 วัน
ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ได้ลงมติ รับร่างข้อบังคับว่าด้วยประมวล จริยธรรมและกรรมาธิการ พ.ศ..... ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญยกร่างข้อบังคับฯที่มีนายพีรศักดิ์ พอจิต ส.ว. เป็นประธานกมธ. พิจารณาแล้วเสร็จ ไว้ในการพิจารณาวาระสอง ด้วยเสียงข้างมาก 187 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง และตั้งกมธ.เพื่อพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ที่ประชุมสภา จะลงมติรับหลักการดังกล่าว มีส.ว.ท้วงติงต่อเนื้อหาและเสนอให้นำไปปรับปรุงแก้ไข อาทิ นายเฉลิมชัย บุญ ยะลีพรรณ ส.ว. อภิปรายทักท้วงว่าบทบัญญัติตามร่างข้อบังคับฯบางประเด็นอาจปฏิบัติได้ยาก เนื่องจากกำหนดเนื้อหาโดยนำข้อบังคับขององค์กรอิสระ หรือ ศาลมาเขียน เช่น ร่างข้อ 20 ที่กำหนดว่า ไม่คบหาสมาคมกับคู่กรณี ผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพล หรือผู้มีความประพฤติ หรือผู้มีชื่อเสียงทางเสื่อมเสีย อันอาจกระทบกระเทือนต่อความเชื่อศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งล้อมาจากข้อกำหนดของศาล แต่กรณีของส.ว. อาจมีประเด็นว่าใครคือ คือคู่กรณี หรือเป็นคู่กรณีหรือไม่ ดังนั้นควรพิจารณาเนื้อหาที่เหมาะสมกับส.ว.หรือร่างข้อ 23 ที่กำหนดว่าต้องอุทิศเวลาแก่ทางราชการ ไม่เบียดบังเวลาราชการไปประกอบธุรกิจเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือผู้อื่น ทั้งนี้การทำงานของส.ว. อาจมีปัญหาว่าเวลาใดคือเวลาราชการ หรือการทำงานนอกพื้นที่ เช่นในโครการพบประชาชนจะถูกตีความอย่างไร เป็นต้น
ขณะที่นายวันชัย สอนศิริ อภิปรายต่อคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ที่กำหนดให้มีองค์ประกอบ 15 คน นั้นจะเพียงพอต่อการพิจารณาหรือไม่ อีกทั้งควรพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ ว่าจะให้มีเฉพาะส.ว.เป็นกรรมการจริยธรรมเท่านั้นหรือไม่ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ.
อ่านข่าว-หนุน 'คนนอก' คุมทีมแก้รธน. 'สุชาติ' ชี้ 'อภิสิทธิ์-สุเทพ