เครือข่ายทนายฯ ยื่นหนังสือนายกฯ ทบทวนการดำเนินคดีโฮปเวลล์

เครือข่ายทนายฯ ยื่นหนังสือนายกฯ ทบทวนการดำเนินคดีโฮปเวลล์

เครือข่ายทนายและประชาชนยื่นหนังสือนายกฯ ทบทวนการดำเนินคดีโฮปเวลล์ โดยให้รัฐบาลรับเป็นคู่กรณีแทนกระทรวงคมนาคม เร่งคัดค้านการบังคับคดีต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อไม่ให้รัฐจ่ายค่าเสียหาย

เมื่อเวลา 9.20 น.ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ ตัวแทนเครือข่ายทนายความและประชาชน ยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ขอให้พิจารณาดำเนินการทางคดี โครงการให้เอกชนลงทุนก่อสร้างทางรถไฟยกระดับ
ในเขตกรุงเทพมหานครโดยได้รับสัมปทานเดินรถระบบรถไฟชุมชน (Community Train) และทางด่วนยกระดับสำหรับรถยนต์ (โฮปเวลล์) โดยมีนายสมพาศ นิลพันธุ์ ที่ปรึกษาสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับมอบหนังสือ

นายภิมะกล่าวว่าจากการติดตามและพิจารณาข้อมูลและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคดีให้เอกชนลงทุนก่อสร้างทางรถไฟยกระดับในเขตกรุงเทพมหานครโดยได้รับสัมปทานเดินรถระบบรถไฟชุมชน และ โฮปเวลล์ พบว่าโครงการนี้อยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลในขณะนั้นที่ได้มีการอนุมัติโครงการ โดยให้กระทรวงคมนาคมเป็นผู้ดำเนินการลงนามแทน ดังนั้นในการดำเนินการกับคู่สัญญาต้องเป็นการดำเนินการระหว่างรัฐบาลกับคู่สัญญาไม่ใช่การดำเนินการโดยกระทรวงคมนาคม หรือการรถไฟแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ได้เสนอให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปยื่นคำร้องของดการบังคับคดีต่อศาลปกครองสูงสุดในกรณีที่กระทรวงคมนาคมต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในคดีนี้ไว้ก่อนเพื่อให้รัฐยังไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายในโครงการนี้ตามคำพิพากษของศาลปกครองสูงสุด

ทั้งนี้คณะทำงานได้มีการพิจารณาพบว่าสัญญาระหว่างรัฐบาลและบริษัทโฮปเวลล์มีลักษณะเป็นโมฆะ ในหลายส่วน เช่น มติ ครม.ได้กำหนด
ข้อสัญญาที่มีผลใชบังคับ ได้แก่สัญญาสัมปทาน ซึ่งเป็นสัญญาระหว่งกระทรวงคมนาคมกับบริษัท Hopewll Holding Ltd. (Hong Kong) เทนั้น มิใช่ให้ลงนามกับ บริษัท โฮปเวลล์(ประเทศไทย) จำกัด

157370841920

นอกจากนั้นยังได้พบข้อมูลว่าการจัดตั้งบริษัทโฮปเวลล์(ประเทศไทย) จำกัด มีการดำเนินการที่ไม่ชอบโดยกฎหมาย เช่น มีการอนุญาตให้บริษัทฯซึ่งถือหุ้นข้างมากโดยบุคคลหรือนิติบุคคลต่างด้าวเข้ามาประกอบกิจการทางรถไฟยกระดับอันเป็นกิจการขนส่งทาบกที่ห้ามมิให้คนต่างด้าวหรือนิติบุคคลต่างด้าวประกอบกิจการในประเทศไทยเป็นการเฉพาะ ซึ่งแม้จะมีความเห็นจากกรมทะเบียนการค้าในขณะนั้นแต่ถือว่ามาจากความคิดและความเข้าใจของเจ้าหน้าที่กรมทะเบียนการค้าในขณะนั้นและไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง


และเมื่อพิจารณาสถานะตามกฎหมายของ บริษัท โฮปเวลล์ โฮลดิ้ง จำกัด (ฮ่องกง) กับบริษัท โฮปวลล์(ประทศไทย) จำกัด และความสามารตามกฎหมายในการเข้ทำสัญญากับรัฐบาลจะเห็นได้ว่าบริษัท โฮปเวลล์ โฮลดิ้งจำกัด (ฮ่องกง) มีสำนังานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในฮ่องกง จึงไม่ได้มีสัญชาติไทยจึงไม่อาจเข้าร่วมเสนองื่อนไขการทำโครงการ ให้อกชนลงทุนก่อสร้งทางรถไฟยกระดับโดยได้รับสัมปทานเดินรถระบบรถไฟชุมชน (Community Train) และทางด่วนยกระดับสำหรับรถยนต์ ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงคมนาคมไปดำเนินการได้ เป็นต้น