เกษตรกรหนุนปลูกเนเปียร์ ป้อนโรงไฟฟ้าชุมชนอีสาน
วิสาหกิจชุมชนภาคอีสาน ยื่นหนังสือถึง “สนธิรัตน์” ขอมีส่วนร่วมคัดเลือกเทคโนโลยีและภาคเอกชนตั้งโรงไฟฟ้าชุมชน หวั่นซ้ำรอยอดีตถูกยกเลิกโครงการ ลั่นพร้อมสนับสนุนปลูกหญ้าเนเปียร์เสริมรายได้สร้างทางเลือกพืชเศรษฐกิจ
นายจำเนียร นนทะวงษ์ ประธานชมรมวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตไฟจากหญ้าเนเปียร์ และประธานกลุ่มวิสาหกิจเศรษฐกิจแนวคิดใหม่ในอาเซียน อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เป็นตัวแทนชมรมฯ เข้ายื่นหนังสือถึงนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานโดยทางชมรมฯสนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ตามนโยบายของกระทรวงพลังงานที่อยู่ระหว่างการกำหนดหลักเกณฑ์และรายละเอียด ซึ่งชมรมฯมีสมาชิกจาก 4 จังหวัดคือ จ.ศรีสะเกษ จ.นคราชสีมา จ.มหาสารคาม และจ.สกลนคร ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกหญ้าเนเปียร์ เพื่อเลี้ยงสัตว์มีพื้นที่ว่าง 1-2 หมื่นไร่ โดยขอให้ชมรมได้มีส่วนร่วมเป็นผู้คัดเลือกเทคโนโลยีและเอกชนผู้ร่วมลงทุนหลักเพื่อความยั่งยืนของโครงการ
ทั้งนี้มีตัวอย่างโครงการที่ประสบความสำเร็จในแต่ละจังหวัดเกิดความสนใจที่จะปลูกหญ้าเนเปียร์เพิ่มขึ้นโดยรูปแบบเงื่อนไขโครงการฯ ที่ภาครัฐจะเปิดโอกาสให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของถือหุ้นในโรงไฟฟ้าร่วมกับภาครัฐและเอกชนนั้น ก็นับเป็นเรื่องที่ดีแต่ต้องการให้กระทรวงพลังงาน ออกเงื่อนไขข้อกำหนด(TOR) ต่างๆให้ชัดเจนไม่ให้มีการยกเลิกโครงการเหมือนในอดีต
“โรงไฟฟ้าขนาด 1เมกะวัตต์ จะใช้พื้นที่ปลูก ประมาณ500-600 ไร่เกษตรกรผู้ปลูกจะมีรายได้ จากการขายเป็นวัตถุดิบให้โรงไฟฟ้าประมาณ 15,000-20,000 บาทต่อไร่ จึงจูงใจให้เกษตรกรเปลี่ยนจากการปลูกอ้อยและมันสำปะหลัง มาปลูกหญ้าเนเปียร์ทดแทนได้ นับเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายภาครัฐอย่างชัดเจน”
สำหรับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก(AEDP)ฉบับปรับปรุงล่าสุด กำหนดเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากหญ้าเนเปียร์ภายในปี2565 ประมาณ 300เมกะวัตต์ โดย กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) อยู่ระหว่างจัดทำโมเดลและรายละเอียดการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน จะนำเสนอให้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ที่มีรัฐมนตรีพลังงาน เป็นประธาน ในการประชุมวันที่ 4 ธ.ค.2562 นี้