รวบแก๊ง 'โจ๋คลองตัน' เมาสี่คูณร้อยตระเวนปล้นทรัพย์

เมื่อเช้ามืด ที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไท พันตำรวจโท วชิรากรณ์ วงศ์บุญ รองผู้กำกับการสืบสวนตำรวจนครบาลพญาไท พันตำรวจตรี พฤฒ ศุภจิตตากร และพันตำรวจตรี ทัศไนย อนันทิโย สารวัตรสืบสวนตำรวจนครบาลพญาไท นำกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน จับกุมตัวนายชลธี หรืออีฟ บุญมาเลิศ ฉายา“อีฟ คลองตัน” อายุ 19 ปี นายไขแสง หรือโย๊ะ ศรีชนะ อายุ 19 ปี และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาตระเวนปล้นทรัพย์ พร้อมของกลาง รถยี่ห้อคีย์เวย์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน ป้ายทะเบียนรถ 2 แผ่น อาวุธมีดพกสั้น ปลายแหลม ยาวประมาณ 6 นิ้ว 1 เล่ม นาฬิกาจีช็อค 1 เรือน และเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมได้บริเวณย่านคลองตัน ตลอดจนย่านอ่อนนุช

   

โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 03.00 น. ตำรวจนครบาลพญาไท รับแจ้งเหตุกลุ่มวัยรุ่นลงมือก่อเหตุปล้นทรัพย์ พนักงานร้านสะดวกซื้อ บริเวณสะพานลอย ริมถนนเพชรบุรี ฝั่งขาออก ช่วงตรงข้ามห้างสรรพสินค้าไอทีชื่อดัง ได้โทรศัพท์มือถือ เงินสด พันกว่าบาท พร้อมกระเป๋าสตางค์ จากนั้นไปก่อเหตุกับผู้เสียหายอีกราย เป็นชายที่มาช่วยงานน้ารับเหมาก่อสร้าง ขณะกำลังเดินริมถนนดังกล่าว แต่เป็นฝั่งขาเข้า หนำซ้ำยังใช้อาวุธมีดที่นำมาแทงเข้าที่หน้าอกผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บ ได้พันกว่าบาท ก่อนหลบหนีไป

 

 

จากนั้นทางตำรวจนครบาลพญาไท นำโดยพันตำรวจโท วชิรากรณ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมหาเบาะแส ตลอดจนตรวจสอบภาพจากกล้งวงจรปิด เพื่อหาเส้นทางการหลบหนี กระทั่งทราบส่าคนร้ายทั้ง 3 รายเป็นใคร และกบดานอยู่ในย่านคลองตัน และย่านอ่อนนุช จนสามารถควบคุมตัวไว้ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ทางตำรวจนครบาลมักกะสันยังสามารถจับกุมผู้ต้องที่เคยร่วมลงมือก่อเหตุกับผู้ต้องหาเหล่านี้ ได้อีก 1 ราย

  

จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ทั้ง 3 ให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีนายอีฟ มีอาชีพช่างตัดผม เป็นหัวโจก ส่วนอีก 2 รายไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุทั้ง3ได้นั่งดื่นกินต้มใบกระท่อมสี่คูณร้อย จนเกิดความฮึกเหิม ชักชวนกันออกไปตระเวนหาเหยื่อตามริมถนน โดยไม่เลือกหน้า ปล้นทรัพย์สิน สำหรับผู้เสียหายรายที่ถูกใช้อาวุธมีดแทงบาดเจ็บนั้น ทางนายอีฟอ้างว่าผู้เสียหายทำท่าจะต่อสู้ จึงชักอาวุธมีดออกมาแทงกะให้ตาย ทั้งนี้เมื่อทำการขยายผลยังพบอีกว่าก่อนหน้านี้ทางผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้ไปก่อเหตุลักษณะดังกล่าวในพื้นที่สถานีตำรวจมักกะสัน ได้มือถือ เงินสดและนาฬิกา ซึ่งแต่ละครั้งได้เงินมาจะนำไปใช้จ่ายในชีวิต พอใช้หมดก็จะออกมาก่อเหตุอีกครั้ง

  

อย่างไรก็ตาม  ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ ต้องทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง เนื่องจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้ง 3 รายเคยต้องคดีลักษณะนี้มาแล้วทั้งสิ้น หากมีผู้เสียหายรายใดถูกคยร้ายกลุ่มนี้ลงมือก่อเหตุ สามารถติดต่อฝ่ายสืบสวน ตำรวจนครบาลพญาไท ได้ทันที เบื้องต้นแจ้งข้อหา“ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมี อาวุธโดยใช้ยานพาหนะ”ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป