จับตา“สตาร์ลักซ์” สายการบินเอมิเรตส์แห่งเอเชีย

สตาร์ลักซ์ สายการบินน้องใหม่สัญชาติไต้หวัน ซึ่งจะเริ่มให้บริการเที่ยวบินแรกในเดือนม.ค.ปี2563 อาจเป็นสายการบินน้องใหม่ในรอบ30 ปีที่หนุนอุตสาหกรรมการบินของไต้หวันให้แข็งแกร่งเกินกว่าที่หลายคนคาดคิด แต่คำถามคือ สายการบินแห่งนี้จะมีภาพลักษณ์หรือเป็นผู้เล่นแถวหน้า จนกลายเป็นสายการบินเอมิเรตส์แห่งเอเชียได้หรือ

ที่ผ่านมา สายการบินสตาร์ลักซ์ ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการเที่ยวบินต่างๆไว้แล้ว ซึ่งรวมถึงการลงนามในสัญญาสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารแอร์บัส เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบีจำนวน 17 ลำ ประกอบไปด้วย เอ350-900 จำนวน 5 ลำ และ เอ350-1000 จำนวน 12 ลำ

นอกจากนี้ สายการบินยังเช่าเครื่องบินโดยสารแบบทางเดินตรงกลางทางเดียวหรือแบบที่นั่งสองแนว เอ321 นีโอ จำนวน 10 ลำ

เครื่องบินโดยสารเอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี เป็นเครื่องบินลำตัวกว้าง พิสัยไกล ตระกูลใหม่ที่จะปรับโฉมหน้าการเดินทางด้วยเครื่องบินแห่งอนาคต โดยมีลำตัวและปีกทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ และติดตั้งเครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ ที่มีประสิทธิภาพรุ่นใหม่ ลดการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซน้อยลงจากเดิม 25%

เมื่อปี 2561 แอร์บัส มียอดคำสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารเอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบีจำนวน 882 ลำ จากลูกค้า 46 รายทั่วโลก ทำให้กลายเป็นเครื่องบินลำตัวกว้างที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดรุ่นหนึ่ง และปัจจุบันแอร์บัสได้ส่งมอบเครื่องบินเอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบีไปแล้วจำนวนกว่า 180 ลำ

“จาง กั๋วเว่ย” ประธานสายการบินสตาร์ลักษ์ อดีตเจ้าของบริษัทเอเวอร์กรีน ที่เป็นบริษัทแม่ของอีวา แอร์ บอกว่า จะเริ่มเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ในเดือนม.ค. ปีหน้า และจะเริ่มเปิดให้จองที่นั่งและจำหน่ายบัตรโดยสารได้ในช่วงเดือน พ.ย. – ธ.ค. ปีนี้

“ในฐานะนักบิน ผมเคยทดสอบบินด้วยเครื่องบิน เอ350-1000 มาแล้ว และทึ่งมากกับประสิทธิภาพอันเยี่ยมยอด เครื่องบินตระกูลเอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี แตกต่างจากเครื่องบินอื่นๆในตลาดอย่างสิ้นเชิง ทั้งยังเหมาะกับภูมิประเทศของไต้หวันเป็นอย่างมาก” จาง กล่าว

การจัดซื้อฝูงบินแอร์บัสของสายการบินสตาร์ลักษ์ ไต้หวัน เป็นสัญญาการสั่งซื้อมูลค่าสูงสุดในไต้หวัน อีกทั้งเครื่องบินโดยสารแอร์บัส เอ350-1000 ก็เป็นเครื่องบินลำแรกที่ไต้หวันสั่งซื้อ ส่วน เอ350-900 จะมีที่นั่ง 306 ที่นั่ง และ เอ350-1000 มีจำนวน 350 ที่นั่ง

ฝูงบินของสายการบินสตาร์ลักษ์จะส่งมอบได้ทั้งหมดในอีก 5 ปีข้างหน้า และในระยะแรกจะให้บริการในเส้นทางเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และมาเก๊า ซึ่งจะขยายสู่เส้นทางบินข้ามทวีปในราวปี 2565 โดยบินไปยังสหรัฐเป็นหลัก

นอกจากนี้ สตาร์ลักซ์ ซึ่งให้บริการรูปแบบฟูลเซอร์วิส ยังมีแผนเปิดเส้นทางบินตรงจากสนามบินเถาหยวน กรุงไทเปมายังกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ตด้วย

ปัจจุบัน ไต้หวัน เป็นเป้าหมายการเดินทางที่ได้รับความนิยมจากคนไทยเป็นอย่างมาก มีเที่ยวบินไปกลับระหว่างไทยและไต้หวันค่อนข้างหนาแน่น โดยเที่ยวบินจากกรุงเทพฯไปไทเปมีมากถึง 48 เที่ยวบินต่อวัน

นอกจากสตาร์ลักซ์ สายการบินน้องใหม่ของไต้หวันจะเตรียมเปิดบริการเที่ยวบินแรกแล้ว ทางการไต้หวันยังให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินทั้งการบินพลเรือนและการบินเพื่อการป้องกันประเทศด้วย โดยเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา นางไช่ อิง เหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน ได้เป็นประธานเปิดตัวเครื่องบินฝึกไอพ่นรุ่นใหม่ที่ฐานทัพอากาศนครไทจง โดยเครื่องบินฝึกไอพ่นลำแรกที่ไต้หวันผลิตเองนี้ มีชื่อว่า “หย่งอิง” แปลว่า เหยี่ยวผู้กล้าหาญ คาดว่าเครื่องบินฝึกไอพ่นลำแรกนี้ จะเริ่มปฎิบัติภารกิจได้ในเดือน มิ.ย.ปีหน้า

เครื่องบินฝึกไอพ่นรุ่นใหม่ลำนี้ เป็นสิ่งยืนยันถึงความก้าวหน้า 3 ด้านของอุตสาหกรรมการบินและอวกาศไต้หวัน ทั้งเทคโนโลยี การผลิตและบุคลากรรุ่นใหม่ นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดประตูสู่ยุคแห่งการป้องกันประเทศโดยพึ่งพาตนเองของไต้หวันอีกด้วย

ปีนี้ การบินของไต้หวันมีการเคลื่อนไหวคึกคักมากกว่าทุกปี แม้จะเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่ได้หวือหวามาก แต่เป็นการเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะสายการบินน้องใหม่อย่างสตาร์ลักซ์ ที่เจ้าของหมายมั่นปั้นมือให้เป็นสายการบินดีที่สุดของภูมิภาค โดยตั้งเป้าผลักดันให้เป็นสายการบินเอมิเรตส์แห่งเอเชีย ที่นำพาผู้โดยสารระดับไฮ-เอนด์ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ350

ไต้หวัน เป็นตลาดการบินที่น่าสนใจ เพราะมีผู้เล่นที่มีศักยภาพ2รายอย่างสายการบินอีวา แอร์ และไชนา แอร์ไลน์ ไม่ต่างจากประเทศอื่นๆที่เป็นลักษณะนี้ เช่นในสหราชอาณาจักร มีสายการบินบริติช แอร์เวย์ส และเวอร์จิน แอตเลนติก ในออสเตรเลีย มีสายการบินแควนตัส และเวอร์จิน ออสเตรเลีย ในญี่ปุ่นมีสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ และสายการบินเอเอ็นเอและตามปกติแล้ว แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่สายการบินน้องใหม่ที่ไม่ได้เป็นสายการบินขนาดใหญ่จะเจาะตลาดการบินที่เป็นเส้นทางทำเงินได้อย่างดี จนสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ จาง กลับมั่นใจว่าสายการบินสตาร์ลักซ์จะประสบความสำเร็จในธุรกิจการบินที่มีการแข่งขันสูง

จาง ดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจต่างจากบรรดานักธุรกิจคนอื่นๆ ด้วยการเปิดตัวสตาร์ลักซ์ในเส้นทางบินและพุ่งเป้าลูกค้าในตลาดบน เพราะมั่นใจว่าบรรดานักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักและนักเดินทางเพื่อทำธุรกิจยังเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีอนาคตท่ามกลางยุคที่อุตสาหกรรมการบินโลกเต็มไปด้วยสายการบินต้นทุนต่ำ

“สายการบินน้องใหม่หลายแห่งมักจะเริ่มด้วยการเจาะตลาดสายการบินต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งแน่นอนว่านั่นคือแนวโน้มหลักของตลาดแต่ขณะเดียวกันในตลาดบนก็ยังมีความต้องการที่แข็งแกร่งอยู่ ”ซีเค หลอ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยจีนในฮ่องกง ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวในธุรกิจการบินของภูมิภาคมาตลอด ให้ความเห็น

ศาสตราจารย์ผู้นี้ ยังบอกด้วยว่า เขาอยากให้สตาร์ลักซ์ก้าวขึ้นมาเป็นสายการบินเอมิเรตส์แห่งเอเชีย ในฐานะที่เน้นการบริการหรูหรา ทั้งในส่วนของเครื่องบินโดยสารที่มีทั้งบาร์ ห้องสวีทส่วนตัวและห้องอาบน้ำไว้คอยบริษัทลูกค้าที่นิยมการบริการที่พร้อมสรรพและสะดวกสบาย

“เรากำหนดโพสิชันของเราว่าเป็นสายการบินบูติก ที่พุ่งเป้าทำตลาดกับลูกค้าตลาดบน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเสนอรูปแบบเครื่องบินโดยสารรุ่นก้าวหน้าที่สุดที่ติดตั้งเทคโนโลยีด้านการบินและที่นั่งรุ่นล่าสุด เพราะฉะนั้นราคาตั๋วโดยสารสายการบินของเราจึงแพงกว่าสายการบินอื่นเล็กน้อย” โฆษกสตาร์ลักซ์ กล่าว