ศึกแบน 3 สารเคมีเกษตร ปมรัฐบาลร้าว

คณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานจะประชุมเป็นครั้งแรกตามโครงสร้างคณะกรรมการชุดใหม่ เพื่อพิจารณาการยกเลิกสารเคมีเกษตร 3 ชนิด คือ พาราควอต ไกลโฟเซต คลอร์ไพรีฟอส  ในวันที่ 27 พ.ย.นี้ หลังจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดเดิมมีมติยกเลิกการใช้สารเคมีเกษตรดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา

ก่อนที่จะมีการประชุมดังกล่าวมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่สนับสนุนการยกเลิกและกลุ่มที่คัดค้านการยกเลิกใช้สารเคมีเกษตรดังกล่าว โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขที่อยู่ภายใต้การดูแลของพรรคภูมิใจไทยที่ออกมาชี้แจงความจำเป็นของการยกเลิกสารเคมีทั้ง 3 ชนิด และการที่นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงผู้เสนอเลื่อนการยกเลิกใช้สารเคมี

ในขณะที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ที่ท่าทีที่สอดคล้องกับนายสุริยะ ที่จะยกเลิกการห้ามใช้สารเคมีเกษตร

นายเฉลิมชัย กล่าวภายหลังผู้แทนเกษตรกร 19 องค์กรที่ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกสารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด เข้าพบ ว่า การพบผู้แทนเกษตรกรครั้งนี้ พบในฐานะผู้แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อรับข้อเรียกร้องแทนนายกรัฐมนตรีที่ติดภาระกิจที่เกาหลีใต้ โดยเกษตรกรขอให้ยกเลิกมติห้ามใช้สารเคมีเกษตร 3 ชนิด ของคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งให้ศึกษาผลกระทบและหาสารอื่นมาแทนทั้งเคมีและชีวภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปเสนอนายกรัฐมนตรี

สำหรับการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายวันที่ 27 พ.ย.นี้ มีการหารือเรื่องสารเคมีเกษตรที่สังคมสนใจ ดังนั้นในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (26 พ.ย.) จะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นการส่วนตัว แต่จะไม่รายงาน ครม.เพราะเป็นอำนาจของคณะกรรมการวัตถุอันตราย

เกษตรฯสั่งทำข้อมูลผลกระทบ

ทั้งนี้ ตามข้อเรียกร้องของเกษตรกรอ้างว่ามติการยกเลิกใช้สารเคมีเกษตร 3 ชนิด คณะกรรมการวัตถุอันตรายอ้างว่าพิจารณาตามความเห็นของกระทรวงเกษตรฯ นั้น ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติที่ทุกหน่วยงานจะเสนอข้อคิดเห็น แต่การตัดสินใจอยู่ที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งการประชุมวันที่ 27 พ.ย.นี้ กระทรวงเกษตรฯ จะเสนอข้อคิดเห็นเช่นกัน

“การตัดสินใจแบนหรือไม่แบนมีผลกระทบทั้งนั้น ผมที่ดูแลเกษตรกรก็ต้องพิจารณาในส่วนของเกษตรกร โดยให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พิจาราณาทุกด้าน คาดว่าจะมีข้อมูลออกมา และคงไม่ต้องคุยกับนางสาวมนัญญา เพราะได้มอบอำนาจการตัดสินใจก่อนหน้าไปแล้วและคงพิจารณารอบคอบด้านแล้ว“

รายงานข่าวจากรกระทรวงเกษตรฯ ระบุว่า กลุ่มเกษตรกร 19 องค์กร ได้ออกคำแถลงการณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ แก้ไขปัญหา โดยให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายกลับไปใช้มาตรการจำกัดการใช้กับสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ตามมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายวันที่ 23 พ.ค.2561 และมติวันที่ 14 ก.พ. 2562 ที่มีการประเมินด้านสุขภาพและผลกระทบแล้ว 

ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย กล่าวกับเกษตรกรในที่ประชุมว่า ได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด โดยมีปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธาน ซึ่งการหารือกับเกษตรกรครั้งนี้จะรายงานให้นายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการวัตถุอันตรายรับทราบทุกอย่างก็จะจบ 

นอกจากนี้ นายเฉลิมชัย ยอมรับว่าขณะนี้ขยับช้าไปนิดแต่พยายามหาทางแก้ไขให้ รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมที่เป็นประธานคณะกรรมการวัตถุอันตรายเริ่มอ่อนลง เพราะภาคอุตสาหกรรมกระทบเช่นกันและจะลุกลามไปถึงผู้บริโภค

เกษตรกรลุ้นมติพรุ่งนี้

นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวว่า การเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องการยกเลิก 3 สารเคมีเกษตร ผลออกมาชัดเจนแล้วว่า 75% ไม่ต้องการให้แบนสารเคมีเกษตร จากกลุ่มตัวอย่าง 48,789 ราย แต่ในความเป็นจริงมีเกษตรกรอีกกว่า 1.5 ล้านราย ได้แสดงความจำนงต้องการใช้และไม่ต้องการแบนผ่านการเข้ารับการอบรมเพื่อขอซื้อและใช้สารเคมีดังกล่าว ควรนับรวมเป็นคะแนนที่คัดค้านการแบน ซึ่งจะส่งผลให้รวมแล้วเกือบ 100% ไม่ต้องการให้แบนสารดังกล่าว

ดังนั้น ผลการประชุมของคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ต้องพิจารณาใหม่ โดยระหว่างนี้ขอให้กลับไปใช้มติเดิมของคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 23 พ.ค.2561 และวันที่ 14 ก.พ.2562 ที่อนุญาตให้ใช้ 3 สารดังกล่าวได้ภายใต้มาตรการจำกัดการใช้ โดยตัดสินใจใหม่วันพรุ่งนี้ (27 พ.ย.)