รองผบช.น. เชื่อลูกฆ่าหั่นศพแม่ หลังพบหลักฐานเชื่อมโยง
"พล.ต.ต.อิทธิพล" เชื่อลูกชายเป็นผู้ลงมือฆ่าหั่นศพแม่ตัวเอง หลังพบหลักฐานเชื่อมโยงหลายอย่าง สันนิษฐานว่าจะใช้ห้องน้ำเป็นที่ชำแหละศพ เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบคราบเลือด
พล.ต.ต.อิทธิพล เปิดเผยภายหลังการเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุประมาณ 20 นาที ว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมดเชื่อได้ว่าลูกเป็นคนลงมือก่อเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้แน่นอน ไม่น่าจะมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง เพราะจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังตั้งแต่วันเสาร์ที่ 23 พ.ย. จนถึงวันนี้ ไม่พบบุคคลอื่นเข้าออกบ้าน นอกจากเจ้าของบ้าน 2 คนแม่ลูกนี้
ส่วนประเด็นที่ว่า นายศิระ ผู้เป็นลูกชายทำคนเดียวได้หรือไม่นั้น รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เชื่อว่าน่าจะทำเพียงคนเดียวเพราะระยะเวลาที่เกิดเหตุ เกิดตั้งแต่ 2 ทุ่ม จนถึงเวลาเที่ยงของอีกวัน ก่อนจะมีผู้มาพบศพ ซึ่งเวลาในการชำแหละศพก็มากพอสมควร เชื่อว่าน่าจะใช้มีดหั่นแล้วใช้คอนตอกซ้ำ
ส่วนพื้นที่ที่คาดว่าจะเป็นจุดที่ใช้ในการหั่นศพคือห้องน้ำ เนื่องจากตำรวจได้ใช้สารเรืองแสงในการตรวจสอบพบมีคาบเลือดอยู่ในนบริเวณดังกล่าว
ส่วนประเด็นสงสัยที่ตำรวจมาถึงจุดเกิดเหตุเร็วนั้น เนื่องจาก น.ส.วรนุช วงษ์ชัย เพื่อนของ น.ส.ยุรีย์ ผู้ตาย รู้จักกับตำรวจที่อาศัยในชุมชนแห่งนี้จึงเรียกมาตรวจสอบด้วย ซึ่งตำรวจที่อยู่ในขณะเกิดเหตุให้ข้อมูลชัดเจนว่าเห็น นายศิระ ลูกชายของผู้ตาย ใช้อาวุธปืนจ่อศรีษะและยิงตัวเองตาย
หลังจากนี้ตำรวจจะเรียกพยานที่อยู่ข้างบ้านมาให้ปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากมีการอ้างว่าได้ยินเสียงคล้ายการสับชิ้นเนื้อในช่วงคืนก่อนพบศพสอดคล้องกับหนึ่งในพยานซึ่งเป็นเพื่อนของ น.ส.ยุรีย์ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ช่วงหลังเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา นายศิระ ได้โทรศัพท์มาปรับทุกข์ กรณีมีปัญหาเรื่องเกม โดยไม่สามารถหาทางออกได้ ลักษณะคล้ายติดหนี้ในเกมตัวเอง จึงแนะนำให้ไปหารือกับแม่โดยตรง เพราะอาจจะสามารถช่วยเหลือได้ ส่วนตัวเชื่อว่าหลังจากคุยกับตัวเองแล้ว นายศิระ อาจจะไปคุยกับแม่ตามที่แนะนำแล้วกลับโดนแม่ตำหนิ ทำให้ นานศิระ สติหลุด จนถึงขั้นลงมือทำร้ายแม่จนเสียชีวิต ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนยังเคยเจอนายศิระ ทะเลาะกับแม่จนสติหลุดมาแล้วครั้งหนึ่ง ถึงขั้นลากท่อนเหล็กมาจะทุบตีแม่ แต่โชคดีที่ตัวเองอยู่ในเหตุการณ์ และสามารถห้ามปรามไว้ได้ก่อน ทำให้ไม่เกิดเหตุร้ายขึ้น โดยหลังจากนั้นจึงพูดคุยกับ น.ส.ยุรีย์ ว่าควรพา นายศิระ ไปพบแพทย์ กระทั่งครอบครัวได้พา นายศิระ ไปหาหมอที่สถาบันจิตเวชสมเด็จเจ้าพระยา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าข้าม ได้เรียกพยานมาสอบแล้ว 4 ปาก พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.9 เปิดเผยว่า ได้มีการเก็บดีเอ็นเอ คราบเขม่าปืนจากพยานทั้งสองคนที่เข้าไปด้วย รวมถึงจะสอบสวนพยานแวดล้อมต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงพยานทั้งสองคนในประเด็นที่สังคมสงสัยให้คลี่คลายทุกประเด็น นอกจากนี้จะต้องไปสอบปากคำแพทย์ โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาที่จ่ายยา ว่าอาการป่วยของผู้ตายถึงขั้นไหนจะตัองพิสูจน์ทราบ