กัลฟ์เซ็นสัญญาสร้าง “วินด์ฟาร์มเวียดนาม” ขนาด 310MW คาดเสร็จภายในปี 64
กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ เข้าลงนามสัญญาก่อสร้าง “วินด์ฟาร์มเวียดนาม” ขนาด 310 เมกะวัตต์ คาดแล้วเสร็จทุกโครงการภายในปี 64
บริษัทกัลฟ์เอ็นเนอร์จีดีเวลลอปเมนท์จำกัด(มหาชน) หรือGULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่าตามที่บริษัทได้เข้าลงทุนในMekong Wind Power Joint Stock Company ผ่านGulf International Holding Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯถือหุ้นทางอ้อมร้อยละ95.0 เป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล(offshore wind) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ310 เมกะวัตต์ตั้งอยู่อำเภอBinh Dai จังหวัดBen Tre ในประเทศเวียดนาม(“โครงการฯ”) บริษัทฯขอแจ้งให้ทราบว่าในเดือนพฤศจิกายน2562 Mekong Wind Power Joint Stock Company ได้เข้าลงนามสัญญาต่อไปนี้
โดยเมื่อวันที่8 พฤศจิกายน2562 Mekong Wind Power Joint Stock Company เข้าลงนามสัญญาบริการซ่อมบำรุงและจัดหาอะไหล่ระยะยาว(Offshore Long Term Program Service Agreement: LTP Agreement) กับSiemens Gamesa Renewable Energy LLC (“Siemens Gamesa”) เพื่อบำรุงรักษาและจัดหาอุปกรณ์เครื่องจักรกังหันลมของSiemens Gamesa ซึ่งเป็นเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีมาตรฐานสูงสำหรับติดตั้งในโครงการฯเป็นระยะเวลา10 ปีและสามารถต่ออายุสัญญาได้ถึง20 ปี
นอกจากนี้เมื่อวันที่25 พฤศจิกายน2562 Mekong Wind Power Joint Stock Company เข้าลงนามสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรมจัดหาและก่อสร้าง(Engineering, Procurement and Construction Contract: EPC Contract) กับPowerChina HDEC- INTL Consortium ซึ่งประกอบด้วยPowerChina Huadong Engineering Corporation Limited และPowerChina International Group Limited โดยขอบเขตของงานภายใต้สัญญาดังกล่าวจะครอบคลุมการออกแบบจัดหาและก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมของทั้งโครงการที่มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ310 เมกะวัตต์โครงการฯถูกแบ่งออกเป็น8 ระยะโดยจะเริ่มก่อสร้างเป็นระยะๆหลังจากที่ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA)กับการไฟฟ้าเวียดนาม(“EVN”)
ทั้งนี้เมื่อวันที่17 กรกฎาคม2562 ที่ผ่านมาMekong Wind Power Joint Stock Company ได้เข้าลงนามPPA กับEVN สำหรับระยะที่1 กำลังการผลิตติดตั้ง30 เมกะวัตต์เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยมีกำหนดจะเริ่มงานก่อสร้างในเดือนพฤศจิกายน2562 และมีกำหนดจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี2563
สำหรับระยะที่2 – 8 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ280 เมกะวัตต์มีกำหนดจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี2564 ตามแผนงานที่กำหนดหากมีความคืบหน้าการพัฒนาโครงการฯบริษัทฯจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆในลำดับต่อไป