'ผบ.ตร.' สั่งเร่งช่วยนราธิวาส ผู้ประสบภัยน้ำท่วม 2 หมื่นคน
"พล.ต.อ.จักรทิพย์" สั่งช่วยเหลือประชาชนประสบอุทกภัยพื้นที่นราธิวาส เบื้องต้นพบผู้เดือดร้อนกว่า 20,792 คน ใน 4 อำเภอ มีถนนที่ได้รับผลกระทบ 8 เส้นทาง
จากกรณีเหตุอุทกภัยจากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งส่งผลให้มีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส ทำให้มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน กว่า 8,000 ครัวเรือน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก ภ.จว.นราธิวาส ว่า ในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาสมีพื้นที่ประสบภัยใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอสุคิริน อำเภอสุไหงปาดี และอำเภอระแงะ จำนวน 20 ตำบล 99 หมู่บ้าน 14 เขตเทศบาล มีผู้ประสบภัย 20,792 คน 8,130 ครัวเรือน เส้นทางที่ได้รับผลกระทบจำนวน 8 เส้นทาง
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีความห่วงใยประชาชนจากสถานการณ์ในครั้งนี้ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ บูรณาการร่วมกับ หน่วยสนับสนุน อาทิ ตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ ตำรวจทางหลวง กองบินตำรวจ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เช่น ทหาร ฝ่ายปกตรอง กรมบรรเทาสาธารณภัย ตลอดจนหน่วยงานภาคเอกชน ให้เข้าการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ โดยจัดชุดเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็ว พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน อาทิ ขนย้ายสิ่งของ ลำเลียงผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่ ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ อำนวยความสะดวกเส้นทางการจราจร พร้อมทั้งการเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวาง อาทิ กิ่งไม้หัก ต้นไม้หรือเสาไฟ โค่นล้ม
มอบหมาย LOCAL CAT ทุกนาย ออกช่วยเหลือ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มกำลัง โดยแบ่งมอบพื้นที่รับผิดชอบและมอบหมายภารกิจให้ชัดเจน วางแผนสับเปลี่ยนหมุนวียนกำลังพลให้เหมาะสมกับสถานการณ์ สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะและเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นในการปฏิบัติ รวมทั้งให้ สถานีตำรวจพื้นที่ประสบภัย จัดเตรียมสถานที่ เครื่องอุปโภค บริโภค ไว้รองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ ตามแนวทางที่เคยปฏิบัติ
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวต่ออีกว่า หากมีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ ได้รับความเสียหาย ให้ผู้กำกับสถานีตำรวจในพื้นนั้น เปิดโรงพักให้บริการประชาชน เข้าพักอาศัย พร้อมบริการน้ำ อาหาร ยารักษาโรคและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ประกอบการ การเพิ่มกำลังสายตรวจทั้งทางบก และทางน้ำออกป้องกันเหตุ เพิ่มวงรอบในการตรวจตรา เพื่อป้องกันมิจฉาชีพฉวยโอกาสซ้ำเติมประชนที่ได้รับความเดือดร้อน และนอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เฝ้าระวัง ตรวจสอบ กรณีมีการกักตุนสินค้า เพื่อจำหน่ายในราคาที่สูงอันเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค