พท.3-อนค.3-ศก.4 ดันองค์ประชุม

วานนี้ (4 ธ.ค.) นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานที่ประชุมสภาฯ พิจารณาญัตติด่วนขอให้สภา​ฯ ตั้งกมธ.วิสามัญ ศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของ หัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44

ทั้งนี้ก่อนการดำเนินการตามขั้นตอน ส.ส. จากหลายพรรคขอหารือ เพื่อให้พิจารณาต่อการแสดงตนที่ไม่เป็นปัญหา รวมถึงการนับคะแนนใหม่ที่อาจขัดต่อข้อบังคับการประชุม ซึ่งบรรยากาศประชุมช่วงดังกล่าวได้หารือเพื่อโต้ตอบไปมา นานกว่า 40 นาที

โดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย หารือว่าหากสภาฯ ยังยืนยันเดินหน้า พรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยความของข้อบังคับการประชุม ข้อที่ 85 ขณะที่มีส.ส.พรรคเพื่อไทย หารือเช่นเดียวกันว่าขอให้ถอนญัตติลงคะแนนใหม่ ซึ่งนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะผู้เสนอให้นับคะแนนใหม่นั้น ยืนยันไม่ถอนญัตติดังกล่าว

ทำให้นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิกล่าวกับที่ประชุมว่าหากสภาฯ​ยืนยันจะเดินหน้านับคะแนนใหม่ จะไม่ขออยู่ร่วมในห้องประชุม และหากจะให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อขอให้ใช้องค์ประชุมครั้งก่อนหน้านั้น อย่างไรก็ดี นายสุชาติ ยืนยันคำวินิจฉัยเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่นายสุชาติให้แสดงตนส.ส.พรรคฝ่ายค้านต่างทยอยออกจากห้องประชุม และบางส่วนยืนอยู่ด้านหลังห้องประชุม ขณะที่ผลการแสดงตน ปรากฎว่ามีผู้แสดงตนผ่านเครื่องทั้งสิ้น 258 คน และแจ้งด้วยวาจาอีก 3 คน รวมเป็น 261 เสียง

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่ามีส.ส.ของพรรคฝ่ายค้าน ได้แสดงตนเพื่อนับเป็นองค์ประชุม จำนวน 10 คน แบ่งเป็น พรรคเพื่อไทย 3 คน ได้แก่ นายขจิต ชัยนิคม ส.ส. อุดรธานี , น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี, นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม., พรรคอนาคตใหม่ 2 คน ได้แก่ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส. จันทบุรี และนายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี,

พรรคเศรษฐกิจใหม่ 4 คน ได้แก่ นายภาสกร เงินเจริญกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นางมารศรี ขจรเรืองโรจน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ, นายสุภดิช อากาศฤกษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ พรรคประชาชาติ 1 คนได้แก่ นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี

ภายหลังการโหวตพิจารณาตั้งกมธ.ฯด้วยวิธีขานชื่อ ปรากฎว่า เสียงเห็นชอบให้ตั้งกมธ.ฯ มีจำนวน 5 เสียง ไม่เห็นชอบ 244 เสียง และงดออกเสียง 6 เสียง ดังนั้นสภาฯไม่เห็นด้วยกับการตั้งกมธ.ฯ

สำหรับ ส.ส.ที่ออกเสียงสนับสนุนในญัตติดังกล่าว 5 คน ได้แก่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง, นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช, นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ และมีพรรคอนาคตใหม่ 1คน คือน.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี

ส่วนที่งดออกเสียง 6คนได้แก่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ, นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี พรรคอนาคตใหม่ , พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี และนายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ก่อนหน้านี้ปรากฎชื่อของ นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา และนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก ที่ลงสมติสนับสนุนญัตติดังกล่าวนั้นได้แสดงตนต่อที่ประชุม แต่เมื่อลงมติพบว่าไม่ปรากฎการใช้สิทธิลงคะแนนแต่อย่างใด

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า มีความพยายามล็อบบี้ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ประมาณ 20 คน ด้วยเงินเป็นจำนวน 8 หลักต่อคน เพื่อให้สนับสนุนการนับคะแนนใหม่ ในญัตติตั้งกมธ.ดังกล่าว

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถโครการรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า ตนเป็นเพียงผู้นำในการบริหารงานเท่านั้นเอง ทั้งหมดต้องอาศัยสติปัญญาของทุกคน เราต้องพึ่งตัวเองให้มากที่สุด พึ่งเพื่อนๆของเรา

ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถโครการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ทันทีที่เห็นผู้สื่อข่าว นายกฯ หันมาพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า “ No comment of Politics” และเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีและยุบสภา หากพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่มีเอกภาพ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ฉันไม่เคยพูดเลย พูดกันไปเอง”

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานยุทธศาสตร์พรรคพปชร. กล่าวว่า รัฐบาลมีความมั่นคงอยู่แล้ว และก็จะอยู่ยาว ส่วนกระแสข่าวการปรับครม. นอกจากจะดูผลงานแต่ละพรรคแล้ว ต้องดูความพอใจของประชาชนด้วย ซึ่งนายกฯไม่ได้ขู่ว่าจะปรับครม. แต่พูดว่าถ้าดำเนินการไม่ดีก็ต้องปรับครม. และเตรียมยุบสภา โดยนายกฯพูดแบบนี้

นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย กล่าวว่า หลังจากที่ตนร่วมงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล และได้พูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอยากให้ทำงานร่วมกัน และขอให้กลับมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเหมือน เบื้องต้นคาดว่าภายในเดือนธ.ค. จะเรียบร้อย และไม่มีฝ่ายค้านอิสระต่อไป