จับแล้วมือฉกนาฬิกาหรู 'เป็กกี้ ศรีธัญญา' กลางงานอีเว้นท์
จับแล้วมือฉกนาฬิกาหรู มูลค่า 1.5 ล้านบาท "เป็กกี้ ศรีธัญญา" กลางงานอีเว้นท์
จากการณี น.ส.ดรุณี สุทธิพิทักษ์ อายุ 40 ปี หรือ เป็กกี้ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เป็กกี้ ศรีธัญญา” ระบุว่า ตนเองถอดนาฬิกา Rolex Yacht-Master ll ไว้ในกระเป๋า ขณะขึ้นเวทีในงานอีเวนต์เมื่อคืนนี้ จากนั้นมีคนมาล้วงกระเป๋า ขโมยนาฬิกาไป ซึ่งตอนนี้ตนเองกำลังเดินเรื่อง อยู่ที่โรงพัก และสถานที่จัดงาน ด้วยน้ำตา พร้อมวอนร้านนาฬิกา เห็นใครเอาไปขาย ฝากแจ้งหน่อย ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้ ตัดข้อพิเศษ เนื่องจาก ตนเองข้อมือเล็กมาก ซึ่งหลังเกิดเหตุได้แจ้งความไว้ที่สน.ห้วยขวาง เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุดบ่ายวันนี้(6 ธ.ค.62) ที่สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง นายฐากูร ตะเภาพงษ์ อายุ 28 ปี แฟนหนุ่ม เป๊กกี้ ได้เดินทางมาพบ พันตำรวจเอก ภูริส จินตรานันท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง หลังทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว
สำหรับผู้ก่อเหตุในครั้งนี้คืออดีตคนขับรถทราบชื่อ นายจิรศักดิ์ หรือแป๊ก อายุ 22 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน เบื้องต้นให้การว่าตนเองไม่พอใจผู้จัดการของเป๊กกี้ที่หักเงินค่าแรง ตนจึงลาออก ซึ่งในวันเกิดเหตุตนไปหาเพื่อนที่ทำงานแถวนั้นพอดีเห็นกระเป๋าวางไว้ และไม่ได้ตั้งใจที่จะขโมย และไม่ทราบว่าเป็นกระเป๋าของเป๊กกี้
ด้าน นายฐากูร เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุวันที่ 4 ธ.ค. เป๊กกี้ได้รับการว่าจ้างให้มาทำการแสดงที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเหม่งจ๋าย ซึ่งทีมงานมาถึงงานช่วง 1 ทุ่ม โดยมีการจัดห้องรับรองไว้สำหรับทีมงานข้างเวทีซึ่งผู้ที่จะเข้าได้ก็มีแต่ทีมงาน 7-8 คนเท่านั้น จนกระทั่งถึงเวลาแสดงเป็กกี้และทีมงานได้ขึ้นเวที แต่ตนยังคงอยู่ในห้องจากนั้นช่วง 23.10 น.ก่อนจะจบงานตนได้ออกจากห้องเพื่อร่วมแสดงบนเวที เมื่อทำการแสดงเสร็จก็ต่างคนต่างเก็บของก่อนกลับที่พัก จนกระทั้งช่วงเช้าวันที่ 5 เป๊กกี้ตามหานาฬิกา Rolex Yacht-Master ll มูลค่า 1.5 ล้านบาท ซึ่งใส่อยู่ประจำ เมื่อทราบว่านาฬิกาได้หายไปจึงเดินทางเข้าแจ้งความที่สน.ห้วยขวางในทันที
นายฐากูร เปิดเผยต่อว่า จากนั้นได้เดินทางไปขอตรวจกล้องวงจรปิดของร้าน ตนตกใจมากเมื่อเห็นภาพคนร้าย ไม่ใช่ใครอื่นแต่กลับเป็นนายแป๊ก คนขับรถเก่าของตนที่ลาออกไปเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา สำหรับนายแป๊ก มาขับรถให้ตนมาประมาณ 5 เดือน ซึ่งน่าจะรู้รายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งของส่วนตัวของเป๊กกี้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีความคุ้นเคยกับทีมงานพอสมควรซึ่งในวันเกิดเหตุก็มีคนเห็นนายแป๊ก มาเดินในงานแต่ไม่มีใครสงสัยอะไร เนื่องจากมารดานายแป๊กเป็นแม่บ้านทีมงาน ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะกล้าทำ
ส่วนทาง พันตำรวจเอก ภูริส กล่าวว่า กรณีนี้หลังคุณเป๊กกี้ได้เดินทางเข้าแจ้งความเมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนพบผู้ต้องสงสัย ซึ่งทางผู้เสียหายระบุว่าผู้ที่ปรากฏในวงจรปิดคือคนรู้จักที่เคยทำงานให้ เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปเชิญตัวมาสอบถาม จนรับสารภาพว่าเป็นผู้นำนาฬิกาไปจริง ซึ่งนำนาฬิกาไปขายให้กับร้านรับซื้อย่านแจ้งวัฒนะ ในราคา 6 แสนบาท ซึ่งในส่วนนี้เมื่อทางร้านได้ทราบว่านาฬิกาที่รับซื้อมานั้นเป็นของคุณเป๊กกี้ จึงแสดงความบริสุทธิ์ใจนำมามอบคืน ซึ่งในส่วนนี้ผู้ก่อเหตุได้นำเงินที่ขายได้มาคืนแล้วและจะนำส่งมอบเงินคืนให้กับร้านนาฬิกาตามขั้นตอนต่อไป ส่วนนาฬิกาต้องให้เจ้าของตัวจริงคือคุณเป๊กกี้มารับด้วยตัวเองเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป