รัฐสภาแจงขยายสัญญา 'ซิโน-ไทย' รอบ 4 เลขาฯ อ้างสนง.ผิด-อุ้มเอกชน

นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผย วานนี้ (10ธ.ค.)ว่า ในฐานะผู้รับผิดชอบต่อโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ย่านเกียกกาย ได้ลงนามขยายสัญญาว่าจ้างบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด รอบ 4 แล้ว เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 62 ช่วงค่ำๆ หลังจากที่สัญญารอบที่ 3 จะสิ้นสุดลงวันที่ 15 ธันวาคมนี้ 

โดยการขยายสัญญาว่าจ้างรอบที่ 4 ซึ่งให้ระยะเวลา 382 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 พิจารณาตามเหตุผลด้วยความเหมาะสม เพราะทางสำนักงานเป็นฝ่ายผิด ทั้งนี้การพิจารณาขยายสัญญาให้ดังกล่าวไม่ได้ทำตามคำร้องขอจากบริษัทผู้รับจ้าง 100 เปอร์เซ็นต์

ส่วนกรณีที่นายวัชระ เพชรทอง สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบการขยายสัญญาดังกล่าวกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภานั้น ไม่ทราบ ต้องสอบถามไปยังนายชวนว่าจะดำเนินการอย่างไรหรือไม่ ทั้งนี้ยืนยันว่าการพิจารณาเป็นไปด้วยความเหมาะสม ส่วนรายละเอียดของเรื่องดังกล่าวจะแถลงข่าวอีกครั้งวันที่ 11 ธันวาคมนี้

ขณะที่นายวัชระ กล่าวย้ำว่า ขณะนี้ปรากฏหลักฐานเป็นที่แน่ชัดว่า ตั้งแต่การขยายเวลาครั้งที่ 3 จำนวน 674 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 ถึง 15 ธันวาคม 2562 นายสรศักดิ์อ้างเหตุจากความล่าช้าในการส่งมอบพื้นที่ของโรงเรียนโยธินบูรณะ แต่ปรากฏว่าขัดแย้งกับหนังสือของนายสรศักดิ์เอง ที่ยืนยันว่าได้ส่งมอบพื้นที่ทั้งหมดให้บริษัทผู้รับเหมาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 เป็นการเอื้อประโยชน์แก่บริษัทผู้รับเหมาโดยมิชอบหรือไม่ ทำให้ประเทศชาติต้องเสียเงินภาษีอากรของประชาชนจำนวนมหาศาล

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธาณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชวน โทรศัพท์มาหาและต่อว่า ส.ส.ของพรรคเป็นคนใช้ไม่ได้ว่า ได้โทรไปเกี่ยวกับเรื่องการร้องเรียนก่อสร้างรัฐสภา ซึ่งเป็นบริษัทของนายอนุทิน และไม่ได้ต่อว่านายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนใช้ไม่ได้ เพราะทั้งสองคนถือว่าเป็นคนสุจริต โดยเหตุผลที่ไปร้องนั้น เพราะทุจริตแล้วไปร้อง แต่เขาจะร้องทำนองประมาณปรามการทุจริต ซึ่งข้อมูลจะเป็นอย่างไรนั้นต้องพิจารณากันอีกครั้ง

“ส.ส.ทั้ง 2 คนนี้ ร้องตั้งแต่ก่อนที่จะมีสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ด้วยซ้ำไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ หรือใครไปยุยงให้ก่อเรื่องทะเลาะขัดแย้งกันโดยไม่จำเป็น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกัน อย่าไปกล่าวหาว่าผมอยู่ในสภาแล้วไปยุใครมา ซึ่งไม่เกี่ยวกัน ขอให้ทราบว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง อย่าเข้าใจผิด” นายชวนกล่าว