MQDC ทุ่ม 1.25 แสนล้าน เนรมิตเมืองในป่า 'เดอะ ฟอเรสเทียส์'
MQDC เนรมิตโครงการเมืองในป่าแห่งแรกในโลก ภายใต้ชื่อ "เดอะ ฟอเรสเทียส์" ทุ่มเงินลงทุนกว่า 1.25 แสนล้านบาท ผลักดันโครงการบนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ ส่งผลให้กลายเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ประกาศเพิ่มเงินลงทุนโครงการ "เดอะ ฟอเรสเทียส์" บนที่ดิน 398 ไร่ ขยายมูลค่าโครงการเป็น 125,000 ล้านบาท สร้างโครงการต้นแบบแห่งใหม่ของโลก
นางทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า MQDC กำลังสร้างโครงการเมืองแห่งแรกของโลก ภายใต้โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบและก่อสร้าง ซึ่งได้รับการยอมรับจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ใน T.H. Chan School of Public Health ว่าเป็นโครงการที่มีวิสัยทัศน์ดีเยี่ยม
ทั้งนี้ MQDC ได้เพิ่มงบประมาณการลงทุนสำหรับโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ หลังจากที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากพันธมิตรระดับโลก โดยหนึ่งในองค์ประกอบที่มีความโดดเด่นคือ ป่าขนาดใหญ่พื้นที่ 30 ไร่ ที่เริ่มปลูกมาตั้งแต่เป็นเมล็ดและต้นกล้า ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของโครงการ สร้างความหลากหลายและความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ระบบนิเวศ
"เป็นครั้งแรกในโลก ซึ่งไม่เคยมีที่ไหนมาก่อนที่ผืนป่าขนาดใหญ่เช่นนี้ถูกนำมาหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเมือง เพื่อนำธรรมชาติกลับคืนสู่ชุมชนและพื้นที่ที่เป็นเมือง และนี่คือหนึ่งในหลายๆ เหตุผลที่ทำให้โครงการเแห่งนี้ได้รับการขนามนามว่า โครงการเมืองแห่งความมหัศจรรย์ในผืนป่า"
ภายในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ประกอบด้วย โครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม ซึ่งมุ่งตอบสนองความหลากหลายของไลฟ์สไตล์และขนาดของครอบครัวที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังมีพื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ กิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ ร้านค้าปลีก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงพื้นที่สำหรับกิจกรรมการเรียนรู้ที่สนุกและสร้างสรรค์ของครอบครัวใน Family Life Center
นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ Town Center สำหรับจัดกิจกรรมชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ โรงละคร อีเวนต์ฮอลล์ ตลาด รวมถึงทางเดินยกระดับความยาวกว่า 1.6 กิโลเมตร ซึ่งรวมทางเดินที่เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ต่างๆ และองค์ประกอบหลายๆ ส่วนในโครงการ และทางเดินที่ทอดตัวอยู่เหนือผืนป่าซึ่งอยู่บริเวณใจกลางโครงการ มอบเป็นเส้นทางเดินเท้าท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบรณ์
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ไม่เคยมีในโครงการอสังหาริมทรัพย์ไหนทำมาก่อน ก็คือพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัย ซึ่งถูกออกแบบขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะทางสำหรับกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน คลับเฮาส์ และผู้ดูแลที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังมีโรงแรมระดับ 5 ดาว และศูนย์การแพทย์และสุขภาพขนาดใหญ่ที่ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุด และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทยจำนวนหนึ่ง
นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC กล่าวว่า "องค์ประกอบทั้งหมดของ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ถูกออกแบบขึ้นเป็นพิเศษโดยเฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์อย่างเดียวคือ ส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นและความสุขที่มากขึ้นของผู้อยู่อาศัย โดยครอบคลุมการจัดวางพื้นที่สาธารณะ พื้นที่ที่อยู่อาศัย การผสานเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเพื่อการใช้ชีวิตในอนาคต การบริหารจัดการแสงธรรมชาติ เสียง ความร้อน การหมุนเวียนของอากาศ คุณภาพอากาศ และคุณภาพน้ำ"
"หนึ่งในนวัตกรรมที่สำคัญสูงสุดของ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คือวิธีการที่เรานำพาสมาชิกในครอบครัวจากหลากหลายเจเนอเรชั่นให้มาอยู่ใกล้ชิดกัน ด้วยการวางผังองค์ประกอบของพื้นที่ที่อยู่อาศัยโดยรอบโครงการอย่างพิถีพิถัน ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของคนแต่ละช่วงวัยโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นวัยเริ่มต้นทำงาน คู่สมรสใหม่ วัยสร้างครอบครัว หรือพ่อแม่สูงวัย ทำให้ทุกคนได้อยู่ใกล้ชิดกับลูก หลาน และพ่อแม่ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างมีอิสระและมีพื้นที่ส่วนตัว”
นายกิตติพันธุ์ กล่าวว่า "การพัฒนาผืนป่าขนาดใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยงบประมาณมากกว่า 1,000 ล้านบาท คือหัวใจสำคัญของเดอะ ฟอเรสเทียส์ โดยผืนป่าแห่งนี้ประกอบด้วยพื้นที่ 'ป่าลึก' ที่เป็นป่าลึกที่อุดมสมบูรณ์ของจริง รวมทั้งพื้นที่ป่าที่มนุษย์สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายจากทางเดินเท้า และมีพื้นที่สีเขียวเปิดโล่งที่ให้ผู้คนสามารถเข้าไปใช้ชีวิตและเป็นส่วนหนึ่งท่ามกลางความมหัศจรรย์ของธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนไร้รอยต่อ"
เดอะ ฟอเรสเทียส์ ยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสัญจรไปมาด้วยการเดินเท้า ซึ่งถูกวางผังจัดเส้นทางไว้อย่างดี ปกคลุมด้วยแนวกั้นและร่มเงาของพืชพรรณตามธรรมชาติที่ออกแบบอย่างละเอียดรอบคอบ
รวมถึงมีระบบการป้องกันน้ำท่วมโดยเฉพาะ ประกอบด้วยพื้นที่กักเก็บน้ำทิ้งขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้มากกว่า 10 ล้านลิตร และสามารถป้องกันไม่ให้โครงการเกิดน้ำท่วมแม้ต้องเผชิญกับพายุฝนครั้งใหญ่
"เราทุ่มงบประมาณก้อนใหญ่กับการสร้างพื้นที่กักเก็บน้ำเหล่านี้ แทนที่จะปล่อยให้น้ำฝนไหลออกจากโครงการและระบายออกไปในพื้นที่อื่น ซึ่งนี่เป็นตัวอย่างของการทำให้ดีที่สุด ทั้งเพื่อโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ และเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนบ้านที่อยู่ในชุมชนโดยรอบ" นายกิตติพันธุ์ กล่าว
"ควบคู่ไปกับการเป็นโครงการที่แสดงความเป็นมิตรต่อโลกใบนี้ เรายังช่วยให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมความยั่งยืนด้วย ตัวอย่างเช่น ระบบพลังงานที่ล้ำสมัย ซึ่งจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยและผู้มาทำกิจกรรมต่างๆ ในโครงการสามารถช่วยกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็นปริมาณมหาศาล ซึ่งปริมาณการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในโครงการ เทียบเท่ากับปริมาณที่พื้นที่ปลูกต้นไม้ขนาด 30,000 ไร่ จะดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้" นายกิตติพันธุ์ กล่าว
นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำระดับโลกได้ ด้วยแนวคิดอันก้าวล้ำนำสมัยในด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยและของชุมชนที่อยู่โดยรอบ พร้อมกับส่งเสริมในเรื่องนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน โดยเดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นโครงการระดับโลกอย่างแท้จริงที่บุกเบิกแนวคิดใหม่นี้ และกำลังนำชื่อเสียงที่ดีงามบนเวทีระดับโลกมาสู่ประเทศไทยของเรา"
เดอะ ฟอเรสเทียส์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ของระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นระเบียงเศรษฐกิจที่เติบโตรวดเร็วที่สุดของไทย สามารถเข้าถึงทางด่วนและการคมนาคมขนส่งมวลชนที่สำคัญได้โดยง่าย ซึ่งปัจจุบันการก่อสร้างเส้นทางถนนในโครงการ และการตอกเสาเข็มสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของโครงการ เสร็จสมบูรณ์แล้ว 90%
โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ประกอบด้วยได้แก่ คอนโดมิเนียมแบรนด์ "วิสซ์ดอม" คอนโดมิเนียมแบรนด์ "มัลเบอร์รี่ โกรฟ" ที่อยู่อาศัยแบรนด์ "มัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า" ที่อยู่อาศัยแบรนด์ "ดิ แอสเพน ทรี" โรงแรมแบรนด์ "ซิกซ์เซนส์" และองค์ประกอบอื่นๆ