กมธ.งบฯซัก 'ศาลยธ.' ของบไร้รายละเอียด จี้ส่งเอกสารให้พิจารณาก่อน
คณะกมธ.งบฯ63 รุมซักตัวแทน "ศาลยุติธรรม" เสนอของบไร้รายละเอียด จี้ส่งเอกสารให้พิจารณา ด้านเลขาฯศาลยธ.แจงใช้งบตามกรอบวินัยการเงินการคลัง แจงปมผู้พิพากษาฟ้องศาลปกครอง อยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อฟ้องกลับ หากพบเจตนาไม่บริสุทธิ์
ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่าสยประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวราเทพ รัตนากร รองประธานกมธ.คนที่สี่ เป็นประธานการประชุม ได้เข้าสู่การพิจารณาการเสนอของบประมาณในหน่วยงานของศาล ได้แก่ ศาลปกครอง, ศาลยุติธรรม และศาลรัฐธรรมนูญ โดยตอนหนึ่งของการพิจารณาการเสนอของบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ที่เสนอของบประมาณทั้งสิ้น 17,436 ล้านบาท และนายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการศาลยุติธรรม ได้เข้าชี้แจงด้วยตนเอง ถูกกมธ.ฯ ตั้งประเด็นคำถามการเสนองบประมาณที่ไม่มีรายละเอียด และมีบางรายการพบการถูกตัดลดทอน จนทำให้เกิดปัญหาของการบริหารงานด้านค่าตอบแทนบุคลากรได้
โดยนายนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ฐานะรองประธานกมธ.ฯ คนที่สิบห้า ตั้งประเด็นถามว่า สำนักงานศาลยุติธรรมถูกสำนักงบประมาณฯ ปรับลดงบประมาณเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์จากที่เสนอขอไปทั้งสิ้น 3 หมื่นล้านบาท และเมื่อตรวจสอบรายละเอียดพบว่าเป็นส่วนของงบประมาณด้านบุคลากร ค่าจ้าง ค่าตอบแทน และสำนักงานศาลฯ ไม่มีการเสนอขอเงินนอกงบประมาณ แต่พบว่ามีการเสนอขอเงินสมทบมูลค่า 3,300 ล้านบาท แต่ไม่มีรายละเอียด ดังนั้นต้องการให้ชี้แจง และขอรายละเอียด
ขณะที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฐานะเลขานุการกมธ.ฯ คนที่สี่ ทวงถามถึงการทำหนังสือขอเอกสารของสำนักงานเลขาธิการศาลยุติธรรม ใน 2 โครงการ คือ โครงการการประกวดราคาจ้างตามโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศ สำนวนคดีศาลชั้นต้นระยะที่ 3 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็คทรอนิกส์ หรือ E-bidding ราคากลางของการจ้างวงเงินรวม 160 ล้านบาท ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2561 และโครงการเรื่องประกวดราคาจ้างพัฒนาระบบการจัดทำสารบบและสำนวนความอิเล็คทรอนิกส์ จำนวน 1 ระบบ (โครงการพัฒนาระบบการจัดทำสารบบและสำนวนความอิเล็คทรอนิกส์) ด้วยวิธีการประกวดราคาทางอิเล็คทรอนิกส์ ราคากลางของการจ้างวงเงินทั้งสิ้น 350 ล้านบาท ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ไม่ได้ระบุรายละเอียดไว้ในรายการเสนอของบประมาณปี 2563 และขอเอกสารการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเรื่องการพัฒนาระบบศาลดิจิทัล ระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 15 มีนาคม 2562 ด้วย เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน ทั้งนี้ตนจะขอสงวนสิทธิ์การปรับลดงบประมาณของสำนักงานศาลยุติธรรม จำนวน 510 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายสราวุธชี้แจงว่าเอกสารชี้แจงที่ กมธ. ขอจะให้เจ้าหน้าที่จัดส่งให้ครบทั้งหมด ยืนยันว่าการใช้งบประมาณของสำนักงานศาลยุติธรรมเป็นการใช้งบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังทุกประการ ส่วนที่ตั้งถามเกี่ยวกับคดีความต่างๆ ตนฐานะหน่วยงานสนับสนุนไม่สามารถชี้แจงแทนได้ อย่างไรก็ตามที่มีประเด็นว่าผู้พิพากษารายหนึ่งที่ฟ้องคดีศาลปกครองนั้น ตนได้ปรึกษากับอัยการ และอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะดำเนินคดีอาญากลับหรือไม่ หากพบว่าเป็นการข่มขู่หรือมีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์