‘นกแอร์’เพิ่มทุนอีก2.2พันล้าน หวังนำเงิน ‘ขยายธุรกิจ-คืนหนี้’ หนุนฐานะแกร่งขึ้น

บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ตัดสินใจ “เพิ่มทุน” อีกครั้ง โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนจาก 3,408.04 ล้านบาท เป็น 3,309.01 ล้านบาท โดยตัดหุ้นที่ยังไม่จำหน่ายจำนวน 99.03 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ1 บาท และอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียน เป็น 4,197.16 ล้านบาท 

โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 888.14 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น ( RO)ในอัตรา 3.5 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาเสนอขาย 2.50บาท มูลค่ารวมไม่เกิน 2,220.36 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอขายในวันที่ 3 ก.พ.-7 ก.พ.2563 โดยบริษัทจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน ในวันที่ 22 ม.ค. 2563 ซึ่งจะมีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่1/2563 วันที่ 14 ม.ค.2563 เพื่ออนุมัติเรื่องดังกล่าว

นายวุฒิภูมิ จุฬางกูรประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ NOK แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริษัททั้งในด้านการดำเนินงานและด้านเงินทุน โดยบริษัทมีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ลดภาระหนี้สิน จัดหาและปรับปรุงฝูงบิน รวมถึงขยายเส้นทางและเครือข่ายการบิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัทและจะทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น

ทั้งนี้บอร์ดบริษัทมีความเห็นว่า การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมเป็นวิธีการระดมทุนที่เหมาะสมที่สุดในช่วงสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัท เพราะ บริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน และมีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ จากงบการเงินเฉพาะกิจการและงบการเงินรวมของบริษัทที่ผ่านการสอบทานโดยผู้สอบบัญชี ณ สิ้นก.ย.2562 จำนวน 659ล้านบาท ซึ่งการเพิ่มทุนครั้งนี้ได้เงินจำนวน 2,220.36 ล้านบาท จะทำให้บริษัทมีส่วนผู้ถือหุ้น เป็นบวก

นายดิษฐนพ วัธนเวคิน นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)หรือ CNS กล่าวว่า บริษัทฯได้คาดไว้แล้วว่า NOK จะต้องมีการเพิ่มทุน เพื่อให้มีฐานะมีความแข็งแกร่ง เพื่อทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นกลับมาเป็นบวก จาก สิ้นไตรมาส 3 ปี 2562 ในงบรวมนั้นส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ 660 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมีความต้องการใช้เงินทุนในการขยายธุรกิจและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดีขึ้น

สำหรับทิศทางธุรกิจสายการบินในปีหน้า คาดว่าจะมีการฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีนี้ เนื่องจาก คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวมีการฟื้นตัวดีขึ้น โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่านักท่องเที่ยวจะเติบโต 5 % จากปีนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปีนี้ และปีหน้า คาดว่ายังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งหลายสายการบินได้มีการป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมันในราคาที่ถูกไว้แล้ว หนุน ให้ผลการดำเนินงานกลุ่มสายการบินปรับตัวดีขึ้น แต่คงไม่มาก เพราะ มีความเสี่ยงเรื่องการแข่งขันราคาตั๋วโดยสารที่คาดว่ายังรุนแรงอยู่  ประกอบกับค่าเงินบาทแข็งค่านั้น ส่งผลกระทบต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว และรายได้จากการขายตั๋วโดยสารลดลง จากบางสายการเงินขายเป็นเงินสกุลต่างประเทศ แต่เมื่อแปลงมาเป็นเงินบาทนั้น ได้ลดลง

สำหรับที่ผ่านมาตั้งแต่  NOK เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2556 ได้มีการเพิ่มทุนแล้ว จำนวน 3 ครั้ง ครั้งแรก เปิดจองซื้อวันที่ 16 พ.ค. 2560 จำนวน 625 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 2.40 บาท  มูลค่า  1,500 ล้านบาท ครั้งที่ 2 วันจองซื้อวันที่ 16 ต.ค. 2560 ออกหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 1,135.99 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 1.50 บาท มูลค่า 1,703.98 ล้านบาท  และ ครั้งที่ 3 เปิดจองซื้อวันที่ 31 ม.ค. 2562 จำนวน 908.79 ล้านหุ้น ที่ราคา 2.75 บาท  มูลค่า 2,499.17 ล้านบาท และ ล่าสุดเป็นครั้งที่ 4 บอร์ดอนุมัติเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เพิ่มทุนจำนวน 888.14 ล้านหุ้น