ถึงเวลา ‘เน็ตฟลิกซ์’ โฟกัสตลาดต่างแดน
ท่ามกลางการแข่งขันดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ ในตลาดสหรัฐ “เน็ตฟลิกซ์ อิงค์” ผู้ให้บริการสตรีมมิงยักษ์ใหญ่ได้เผยข้อมูลล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า บริษัทขยายธุรกิจในภูมิภาคอื่น ๆ ของโลกรวดเร็วขนาดไหน และเป็นการโน้มน้าวนักลงทุนว่าบริษัทจะโฟกัสตลาดนอกสหรัฐมากขึ้น
การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนสมาชิกและรายได้สำหรับการดำเนินการนอกสหรัฐของเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันจันทร์ (16 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นครั้งแรกที่บริษัทรายงานตัวเลขสมาชิกในตลาดต่างแดนแยกเป็นรายภูมิภาค
ขณะเดียวกัน บรรดานักลงทุนและนักวิเคราะห์ต่างต้องการเห็นรายละเอียดลงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับลักษณะการประกอบธุรกิจของเน็ตฟลิกซ์
ข้อมูลล่าสุดเผยว่า ภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ซึ่งเน็ตฟลิกซ์จัดเป็นกลุ่มเดียวกันในเรื่องจำนวนสมาชิก มีสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่านับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2560 และยังเป็นภูมิภาคนอกสหรัฐขนาดใหญ่ที่สุดด้วย
ขณะที่ละตินอเมริกามีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนเอเชียมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังคงเป็นสัดส่วนเล็ก ๆ ในธุรกิจทั้งหมดของเน็ตฟลิกซ์ และเมื่อนับรวมทั่วโลก พบว่า ปัจจุบัน จำนวนสมาชิกเน็ตฟลิกซ์อยู่ที่ 158.3 ล้านคน
ที่ผ่านมา การเติบโตของจำนวนสมาชิกยักษ์ใหญ่สตรีมมิงในสหรัฐเป็นสัญญาณสำคัญสำหรับตลาดวอลล์สตรีทและตัวขับเคลื่อนหลักของหุ้นเน็ตฟลิกซ์มาโดยตลอด แต่การเติบโตในขณะนี้เริ่มชะลอตัวลงและบริษัทเตรียมจะเผชิญกับการแข่งขันรุนแรงขึ้นจากบรรดาคู่แข่งสตรีมมิงหน้าใหม่ที่เริ่มให้บริการกันแล้ว
- สมรภูมิสตรีมมิง “เดือด”
เมื่อเดือนที่แล้ว ทั้ง “ดิสนีย์ โค” ค่ายภาพยนตร์ชื่อดัง และ “แอ๊ปเปิ้ล อิงค์” บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ได้เปิดบริการสตรีมมิงใหม่แบบส่งตรงถึงผู้บริโภค (ดีทูซี) และในปีหน้า “วอร์เนอร์ มีเดีย” ของบริษัทเอทีแอนด์ที อิงค์จะเปิดตัวบริการสตรีมมิงใหม่ชื่อว่า “เอชบีโอ แม็กซ์” ขณะที่ “เอ็นบีซี ยูนิเวอร์แซล” ของบริษัทคอมแคสต์ คอร์ป จะเปิดแพลตฟอร์มเป็นของตัวเองชื่อว่า “พีค็อก”
นอกจากนี้ การแข่งขันราคาในสหรัฐจะดุเดือดยิ่งขึ้นเช่นกัน บริการ “ดิสนีย์พลัส” (Disney+) มีค่าบริการ 6.99 ดอลลาร์ต่อเดือน เทียบกับ 12.99 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับแพ็คเกจยอดนิยมของเน็ตฟลิกซ์ ขณะที่คอมแคสต์มีแผนจะเปิดบริการราคาถูกที่สร้างรายได้จากโฆษณา
หุ้นของเน็ตฟลิกซ์ร่วงลง 16% จากช่วงกลางเดือน ก.ค. ที่ผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทแสดงให้เห็นว่าจำนวนสมาชิกในสหรัฐลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี
ภายใต้การรายงานผลประกอบการทางการเงินแบบใหม่ เน็ตฟลิกซ์จัดผลประกอบการในสหรัฐรวมกับในแคนาดาซึ่งอาจช่วยให้ตัวเลขดูดีขึ้นเล็กน้อย โดยในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา สหรัฐและแคนาดามียอดลูกค้าเพิ่มขึ้น 6.13 แสนคน รวมเป็น 67 ล้านคน
ในรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของช่วงเดียวกันที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ในเดือน ต.ค. เน็ตฟลิกซ์ระบุว่า จำนวนลูกค้าในสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.2 แสนคน ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ประมาณ 60 ล้านคน
- รุกขยายกิจการนอกสหรัฐ
เน็ตฟลิกซ์เริ่มขยายกิจการในต่างประเทศครั้งใหญ่เมื่อปี 2559 เมื่อบริษัทขยายบริการอีก 3 เท่าครอบคลุมใน 130 ประเทศทั่วโลก ด้วยเหตุนี้จึงต้องรับมือกับกฎเกณฑ์ที่ซับซ้อนและลงทุนซื้อรายการท้องถิ่นในแต่ละประเทศ
การขยายตลาดไปทั่วโลกเป็นหัวใจสำคัญของโมเดลธุรกิจของเน็ตฟลิกซ์ ทำให้บริษัทมีเครื่องไม้เครื่องมือทางการเงินในการจ่ายเงินก้อนโตในวงการฮอลลีวูดเพื่อปั้นคอนเทนท์
ในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เน็ตฟลิกซ์เผยว่า มีจำนวนสมาชิก 47.4 ล้านคนนับถึงวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา เทียบกับ 19.7 ล้านคนนับถึง 31 มี.ค. 2560 เพิ่มขึ้นถึง 140% ในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่รายได้ในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าเป็น 4,000 ล้านดอลลาร์
ภูมิภาคละตินอเมริกามีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเป็น 29.4 ล้านคนจาก 15.4 ล้านคนในช่วงเวลาเดียวกัน และมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเป็น 2,000 ล้านดอลลาร์
ส่วนในเอเชียแปซิฟิก เน็ตฟลิกซ์มีสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าในช่วงเวลาเดียวกันเป็น 14.5 ล้านคนจาก 4.7 ล้านคน และมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านดอลลาร์จาก 116 ล้านดอลลาร์
- ตลาดต่างแดนทำแทน (สหรัฐ) ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ความกังวลหนึ่งในตลาดวอลล์สตรีทคือ เน็ตฟลิกซ์จะไม่สามารถคิดค่าบริการในตลาดต่างแดนมากเท่ากับในสหรัฐ หมายความว่า การเติบโตในต่างประเทศจะยังไม่สำคัญเท่ากับตลาดสหรัฐ
เอกสารที่เน็ตฟลิกซ์แจ้งกับตลาดหลักทรัพย์ชี้ว่า สหรัฐและแคนาดายังคงสร้างรายได้รายเดือนเฉลี่ยต่อสมาชิก 1 คนสูงที่สุดสำหรับเน็ตฟลิกซ์ แต่ภูมิภาคอื่น ๆ ก็ไม่ได้ห่างมากนัก
นับถึงวันที่ 30 ก.ย. ปีนี้ รายได้จากสมาชิกรายเดือนเฉลี่ยในสหรัฐและแคนาดาอยู่ที่ 12.36 ดอลลาร์ เทียบกับมาตรฐานอัตราแลกเปลี่ยนกลาง รายได้ในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเฉลี่ยอยู่ที่ 10.90 ดอลลาร์ ในเอเชียแปซิฟิกอยู่ที่ 9.58 ดอลลาร์ และในละตินอเมริกาอยู่ที่ 9.35 ดอลลาร์
หลังจากนี้เมื่อมีการประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 และทั้งปี 2562 เน็ตฟลิกซ์จะรายงานการเติบโตของจำนวนสมาชิกในภูมิภาคต่าง ๆ และจะเปิดเผยเพียงแนวโน้มจำนวนสมาชิกที่สมัครแพ็คเกจแบบเสียเงินทั่วโลกโดยไม่แยกย่อยรายภูมิภาค