‘กัวเตมาลา’ ตัดริบบิ้นเปิดสถานทูตใหม่ในกรุงเทพฯ
ประเทศกัวเตมาลา ตัดสินใจกลับมาเปิดสถานเอกอัครราชทูตที่กรุงเทพฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังปิดไปเมื่อปี 2533 มุ่งผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทะลุเป้าปัจจุบัน 121 ล้านดอลลาร์
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า การที่กัวเตมาลาพิจารณาเปิดสถานทูตที่กรุงเทพฯ จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันที่ดำเนินมา 62 ปีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
“ประเทศไทยและกัวเตมาลายังมีลู่ทางที่จะขยายความร่วมมือได้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการค้าการลงทุน รวมถึงการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน ทำให้ระยะทางที่ห่างไกลกันไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป เนื่องจากการเดินทางที่สะดวกขึ้น รวมถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการสื่อสารที่มีความก้าวหน้า” นายดอน กล่าวย้ำ
ด้าน นางแซนดา อลิกา โจเวล โปแลนโค รัฐมนตรีต่างประเทศกัวเตมาลา กล่าวรู้สึกประทับใจและการต้อนรับด้วยอัธยาศัยไมตรี พร้อมกล่าวย้ำว่า กัวเตมาลามีความมุ่งมั่นที่จะขยายความสัมพันธ์กับไทยและประเทศในภูมิภาคเอเชียต่อไป ซึ่งกัวเตมาลาแสดงความสนใจที่จะเรียนรู้ประสบการณ์ของไทย เพื่อนำไปส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกัวเตมาลา นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศกัวเตมาลายังได้เชิญนายดอนเยือนกัวเตมาลาอีกด้วย
“กัวเตมาลา มั่นใจว่า สถานทูตใหม่ที่เปิดทำการจะช่วยผลักดันความร่วมมือให้บรรลุเป้าหมายเศรษฐกิจและการค้า รวมไปถึงฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการเมืองและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม” นางโปแลนโคระบุ
รัฐมนตรีต่างประเทศกัวเตมาลา กล่าวอีกว่า สถานทูตแห่งใหม่ยังปฏิบัติงานด้านกงสุล ดูแลครอบคลุมชาวกัวเตมาลาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ขณะเดียวกัน หวังว่า ประเทศไทยจะเปิดสถานเอกอัครราชทูตในกัวเตมาลาในอนาคตใกล้นี้ ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ความตกลงด้านการตรวจลงตราสำหรับหนังสือเดินทางทูตและราชการ และความตกลงด้านการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนจะช่วยส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัวเตมาลา โดยขอให้ฝ่ายไทยพิจารณาจัดคณะผู้แทนภาคเอกชนไทยเยือนกัวเตมาลา ในช่วงที่มีลาตินอเมริกาโปรเจค
"ทั้งสองสามารถใช้ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น กรุยทางไปสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งกัวเตมาลายังเปิดให้มีการลงทุนในหลายด้าน อาทิ โครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัย การผลิตซอฟแวร์ การพัฒนาระบบโทรคมนาคมและการสื่อสาร การส่งออกผักและผลไม้" รัฐมนตรีต่างประเทศกัวเตมาลาชี้
นายดอนยังได้บรรยายสรุป และฉายคลิปวิดีโอเกี่ยวกับแผนการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อยกระดับการพัฒนาประเทศตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่เน้นเทคโนโลยีระดับสูงและนวัตกรรม โดยมีการพัฒนาท่าเรือและอากาศยานอู่ตะเภาให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อรองรับโครงการดังกล่าวและเชื่อมโยงการพัฒนาไปยังอินเดียและจีน
ทั้งนี้ ยังได้แสดงความสนใจในยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและการสร้างความเชื่อมโยงของไทย โดยเห็นว่าไทยกับกัวเตมาลาต่างมีจุดแข็งร่วมกันที่จะช่วยเชื่อมโยงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับอเมริกากลาง ในเชิงยุทธศาสตร์ของที่ตั้งและบทบาทนำของไทยในอาเซียนและของกัวเตมาลาในอเมริกากลาง
กัวเตมาลาเป็นสมาชิกองค์การทางเศรษฐกิจและการเมืองของอเมริกากลาง (Central American Integration System : SICA) ร่วมกับฮอนดูรัสและเอลซัลวาดอร์ โดยมีความตกลงด้านศุลกากรและการยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างกัน ทำให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรีระหว่างประชากร 40 ล้านคนในกลุ่มนอกจากนี้ กัวเตมาลามีชุมชนใหญ่ 2.8 ล้านคนในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานที่สร้างรายได้มหาศาลส่งกลับเข้าประเทศ
อย่างไรก็ตาม เมื่อปีที่แล้วปริมาณการค้าระหว่างไทยกับกัวเตมาลามีปริมาณ 121.14 ล้านดอลลาร์ โดยตั้งเป้าให้เพิ่มขึ้นกว่าเดิม