'การทูตดิจิทัล' เริ่มใช้ 'อีพาสปอร์ตใหม่' ปี63

'การทูตดิจิทัล' เริ่มใช้ 'อีพาสปอร์ตใหม่' ปี63

การทำให้การทูตเข้าถึงประชาชนและเป็นเรื่องจับต้องได้ เป็นความท้าทายในทุกยุคทุกสมัย หากแต่วันนี้แนวทางการทูตดิจิทัล (Digital Diplomacy) ได้ลดข้อจำกัด ขยายการดูแลรักษาผลประโยชน์ประเทศ และประชาชนอย่างทั่วถึง

บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรุงเทพธุรกิจว่า ในปี 2563 ประชาชนจะได้เห็นการดำเนินงานด้านการต่างประเทศในมิติใหม่ที่ต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ การเริ่มใช้หนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ตอิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่ล่าสุดในช่วงกลางปีหน้า

อีพาสปอร์ตรุ่นใหม่ ได้รับการออกแบบให้ด้านในปกมีลวดลายสะท้อนศิลปวัฒนธรรมไทย เป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ประเทศ ที่สำคัญยังใช้เทคโนโลยีทันสมัยที่สุด เพื่อเก็บอัตลักษณ์ส่วนบุคคล จากเดิมเก็บเพียงใบหน้า ลายนิ้วมือ แต่รุ่นใหม่ใช้ "ระบบสแกนม่านตา"

157691777841

อีพาสปอร์ต มีทั้งอายุ 5 ปี และ 10 ปี โดยพาสปอร์ตอายุ 10 ปี ให้เฉพาะผู้บรรลุนิติภาวะเท่านั้น เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้ที่ไม่ค่อยเดินทาง และกรณีบางประเทศมีการตรวจลงตราอายุ 10 ปี นอกจากนี้ ยังลดระยะเวลายื่นคำร้องพาสปอร์ตรุ่นใหม่ ไม่เกิน 12 นาที เพิ่มอุปกรณ์ประจำจุดบริการพาสพอร์ตเป็น 500 ชุด และมีสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว 15 จุดทั่วประเทศ  

"กระทรวงได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาช่วยงานการต่างประเทศ และใช้โซเชียลมีเดียดูแลคนไทยในต่างแดน ตั้งแต่การประชาสัมพันธ์ข่าวที่เป็นประโยชน์ และชี้แจงลดความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากข่าวปลอม" โฆษกกระทรวงกล่าวย้ำ

157691295615

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังมีภารกิจติดตามสถานการณ์สำคัญๆในปีหน้า เพื่อรักษาผลประโยชน์ประเทศ ไม่ว่าทิศทางเศรษฐกิจโลก การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ การสนับสนุนเวียดนามทำหน้าที่ประธานอาเซียน มาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดเอเปก และยังมีการเยือนบุคคลสำคัญๆ ในปี 2563

หากมองย้อนกลับไปตั้งแต่ต้นปี กระทรวงการต่างประเทศประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมสร้างประวัติศาสตร์ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี และพระราชพิธีในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ที่จารึกไว้ในหัวใจของคนไทยทุกคน และถ่ายทอดพิธีการอันสมพระเกียรติไปยังทั่วโลก โดยงานนี้กระทรวงทำหน้าที่ประสานเชิญคณะทูตานุทูตเข้าร่วมงาน และเปิดให้คนไทยในต่างแดนร่วมแสดงความจงรักภักดีที่สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก 

อีกทั้งยังมีเรื่องต้อนรับการเยือนระดับผู้นำอย่างเป็นทางการ 4 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ สาธารณรัฐเช็ก และสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส รวมไปถึงการเสริมสร้างกระชับความสัมพันธ์กับทุกประเทศให้แน่นแฟ้น จนเป็นผลให้ประเทศคอซอวอ และกัวเตมาลาเปิดสถานเอกอัครราชทูตที่กรุงเทพมหานคร อีกทั้งรัสเซียยังเปิดสถานกงสุลใหญ่ที่พัทยา

157691973964

ขณะที่ ภารกิจไทยเป็นประธานอาเซียนปี 2562 และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 34 และครั้งที่ 35 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ก็สำเร็จลุล่วงอย่างดี และไทยมีความภูมิใจได้ผลักดันเอกสาร “มุมมองของอาเซียนต่อแนวคิดอินโด-แปซิฟิก” เพื่อยืนยันท่าทีอาเซียนและเปิดให้ประเทศต่างๆได้พิจารณาความร่วมมือและโครงการนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายร่วมกัน 

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศปลดใบเหลืองประเทศไทย ด้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) สะท้อนถึงการดำเนินงานของรัฐบาลไทย เพื่อปรับปรุงนโยบายการบริหารจัดการประมง ซึ่งตามมาด้วยสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศกระชับความสัมพันธ์กับประเทศไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นหลังจากที่ไทยจัดเลือกตั้งลุล่วง และอียูยังเดินหน้ารื้อฟื้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างกันอีกด้วย

157691371267