'ผบช.ภ.1' ลั่นล่าคนเอี่ยวเพิ่ม! แถลงจับ 'เสี่ยไฮ้-สมุนแจ๊ค' คดีฆ่าเซลล์สาวหมกรถทิ้งคลอง

'ผบช.ภ.1' ลั่นล่าคนเอี่ยวเพิ่ม! แถลงจับ 'เสี่ยไฮ้-สมุนแจ๊ค' คดีฆ่าเซลล์สาวหมกรถทิ้งคลอง

"พล.ต.ท.อำพล" ผบช.ภ.1 ล่าคนเอี่ยวเพิ่ม! แถลงจับ "เสี่ยไฮ้" และ "แจ๊ค" สมุนคู่ใจ คดีฆ่าเซลล์สาวหมกรถทิ้งคลอง แม้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 ธันวาคม 2562 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 หรือเอราวัณ 1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 และพ.ต.อ.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี ร่วมกันแถลงผลการจับกุม 2 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายสันติ หรือเสี่ยไฮ้ จึงทองดี อายุ 62 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 294/2562 ลง 24 ธันวาคม 2562 และนายนิวัฒน์ หรือแจ๊ค เฉลิมวัฒน์ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 293/2562 ลง 24 ธันวาคม 2562 ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย , ร่วมกันทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ ส่วนของศพ โดยไม่มีเหตุอันสมควร , ร่วมกันกระทำการใดๆแก่ศพในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไปเพื่ออำพลางคดี โดยจับกุมตัวได้ที่บริษัทห้าดาวเคมีภัณฑ์ จำกัด ตำบลพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 24 ธันวาคม 2562

\'ผบช.ภ.1\' ลั่นล่าคนเอี่ยวเพิ่ม! แถลงจับ \'เสี่ยไฮ้-สมุนแจ๊ค\' คดีฆ่าเซลล์สาวหมกรถทิ้งคลอง

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2559 นางลั่นทม วงษ์สิงห์ อายุ 57 ปี ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรพระพุทธบาท แจ้งความคนหายเพื่อติดตามตัวนางสาวกลิ่นเกษร วงษ์สิงห์ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาวหลังได้หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2559 ต่อมาในช่วงเช้าวันที่ 9 ธันวาคม 2562 มีพลเมืองดีแจ้งเหตุว่าพบรถยนต์จมน้ำอยู่กลางคลองชลประทาน ชัยนาท ป่าสัก ตำบลบ้านโป่ง อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งจมอยู่กลางคลองชลประทาน ชัยนาท ป่าสัก ตรวจสอบเบื้องต้นพบหมายเลขทะเบียนที่ติดป้ายด้านหลัง 4กฐ 6348 กรุงเทพมหานคร ภายในรถยนต์พบดินโคลน , ผ้าปูที่นอนห่อโครงกระดูกมนุษย์ , ซิลิโคน , เสื้อผ้า เอกสารและบัตรพร้อมสิ่งของต่างๆ เป็นจำนวนหลายรายการ

\'ผบช.ภ.1\' ลั่นล่าคนเอี่ยวเพิ่ม! แถลงจับ \'เสี่ยไฮ้-สมุนแจ๊ค\' คดีฆ่าเซลล์สาวหมกรถทิ้งคลอง

ผลการตรวจพิสูจน์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ตรวจพิสูจน์รูปแบบสารพันธุกรรม(DNA) พบว่าชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์ที่พบในรถจมน้ำเทียบกับนางลั่นทม มีความสัมพันธ์เป็นมารดาและบุตรกันตามหลักการถ่ายทอดพันธุกรรม 99.995% ส่วนผลการตรวจสอบรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวปรากฏชื่อนางสาวกลิ่นเกสรเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ ซิลิโคน , เสื้อผ้าและเอกสารรวมทั้งบัตรต่างๆ ที่ระบุเป็นของนางสาวกลิ่นเกษรอยู่ภายในรถ จึงยืนยันได้ว่าโครงกระดูกที่พบในรถคือนางสาวกลิ่นเกสร

จากการสืบสวนสอบสวนทำให้ทราบข้อเท็จจริงว่านางสาวกลิ่นเกษร ผู้ตายได้คบหาเป็นสามีภรรยากับนายสันติ ต่อมาภายหลังได้มีเหตุขัดแย้งทะเลาะวิวาทกันเรื่องความหึงหวงแล้วหายตัวไป จึงนำภาพกล้องวงจรปิดและสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆ ทำให้เชื่อว่าน่าจะถูกฆาตกรรมโดยใช้ผ้าปูที่นอนในออฟฟิศภายในบ้านของนายสันติ มัดพันห่อศพผู้ตายไว้ โดยไม่ทราบวิธีที่ทำให้ตายที่แน่ชัด แล้วนำศพผู้ตายมาทิ้งเพื่ออำพรางคดี จากนั้นทางคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลจังหวัดสระบุรี เพื่อขออนุมัติหมายจับนายสันติ และนายนิวัฒน์หรือแจ็ค ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของนายสันติ เป็นผู้ร่วมกระทำความผิดและสามารถติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

ทั้งนี้ นายสันติและนายนิวัฒน์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงไม่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

\'ผบช.ภ.1\' ลั่นล่าคนเอี่ยวเพิ่ม! แถลงจับ \'เสี่ยไฮ้-สมุนแจ๊ค\' คดีฆ่าเซลล์สาวหมกรถทิ้งคลอง

พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า พยานหลักฐานที่นำไปสู่การออกหมายจับ ประกอบด้วย พยานหลักฐานที่พบในจุดที่พบศพ, ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าโรงงาน, ผลทางนิติวิทยาศาสตร์ พยานบุคคล และวัตถุพยานต่างๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บพยานหลักฐานต่างๆ ไปตรวจสอบ ซึ่งทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่าสัมพันธ์กัน ทั้งนี้เชื่อว่าเหตุฆาตกรรมเกิดที่โรงงานดังกล่าว โดยมีมูลเหตุจูงใจจากการหึงหวง เบื้องต้นเชื่อว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกจำนวนหลายคน แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยยืนยันว่าจะออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องทุกคน

ทางพล.ต.ท.อำพล ยังกล่าวยืนยันอีกว่า ไม่หนักใจในการทำคดี เพราะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 1 จะทำการสืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมทั้งยืนยันว่า จะดำเนินมาตรการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและอาชญากรรมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้พื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 1 เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างสุดความสามารถ ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อไป

หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะสอบปากคำเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนจะนำตัวนายสันติและนายนิวัฒน์ กลับไปส่งศาลจังหวัดสระบุรี เพื่อฝากขัง ในวันที่ 26 ธันวาคม 2562 โดยทางพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะไปหยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวทาง พล.ต.ท.อำพล ได้สอบปากคำสองผู้ต้องหาด้วยตัวเอง ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองกลับจ.สระบุรี โดยมีกำลังตำรวจจากกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษของตำรวจภูธรภาค 1 เกือบสิบนาย คุมเข้มสองผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ตำรวจสภ.แก่งคอย ทั้งนี้ระหว่างการคุมตัวกลับผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายสันติ ถึงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ รวมถึงให้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าได้กระทำผิดจริงหรือไม่ หรือจะพูดอะไรกับเรื่องนี้บ้าง แต่ทางนายสันติไม่ได้ตอบคำถามใดใดกับสื่อมวลชน ทั้งนี้การควบคุมตัวกลับเป็นไปอย่างทุลักทุเล