'ประยุทธ์' เผยรู้อีสาน คนไม่ชอบเยอะ ยิ่งต้องมา
"ประยุทธ์" เยือนชัยภูมิ ยอมรับ "อีสาน" คนไม่ชอบเยอะ ยิ่งต้องมา ยันทหารเก่า ไม่พูดโกหกหลอกลวง อ้อนที่นี่ข้าวเหนียวอร่อยที่สุด
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมพร้อมคณะ เดินทางออกจาก จ.ขอนแก่น โดยเฮลิตอปเตอร์ถึง จ.ชัยภูมิ จากนั้นนั่งรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้าอัลพาร์ด หมายเลขทะเบียน กจ 1155 ชัยภูมิ มายังคลองเทา บ้านหนองแหน ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ข้าราชการท้องถิ่น และประชาชน 1 หมื่นคน ให้การต้อนรับอย่างคึกคัก รวมถึงส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ และมีการเปิดเพลงชัยภูมิบ้านพี่
จากนั้น นายกรัฐมนตรี รับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานโครงการฟื้นฟู และพัฒนาคูคลองโดยการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐและชุมชน ก่อนจะพบปะประชาชน
โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างขึ้นเวทีพบปะประชาชน ว่า ปัญหาเรื่องน้ำและทุกๆ เรื่องมีความสำคัญที่รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนและแม้นายกฯจะไม่ได้ทำการเกษตรเอง แต่ก็เข้าใจว่าชาวบ้านมีความเดือดร้อนและยากลำบากอย่างไร เพราะตนเป็นคนชัยภูมิ เนื่องจากแม่เป็นสาวชัยภูมิ สาวชัยภูมิเป็นคนสวย ส่วนพ่อเป็นคนกรุงเทพฯ ไปทำงานโคราช และจีบสาวชัยภูมิ สำหรับตนหน้าเหมือนแม่มากที่สุด ถ้าดูดีก็คงได้มาจากแม่
“วันนี้มาเจอกันด้วยความรักและความปรารถนาดีให้กันและทุกรัฐมนตรีที่มาวันนี้มาจากพรรคร่วมรัฐบาลทั้งประชาธิปัตย์พรรคพลังประชารัฐและภูมิใจไทย นี่คือพรรคร่วมรัฐบาลหลักทั้ง 3 พรรค ทั้งหมดมี 19 พรรค เราจะต้องบริหารให้เดินหน้าต่อไปให้ได้ ส่วนการวาดหวังอะไรใหม่ๆวันข้างหน้าก็ค่อยไปว่ากัน เอาวันนี้ให้เดินต่อไปข้างหน้าให้ได้ก่อนอย่าพึ่งไปคิดว่าอย่างโน้นจะดีกว่าอย่างนี้จะดีกว่า เอาที่มีอยู่แล้วทำงานให้มันดีได้ก่อน และผมในฐานะนายกรัฐมนตรีก็จะทำให้ดีที่สุดโดยไม่ได้ต้องการอะไรจากใครทั้งสิ้น
วันนี้ที่มาจังหวัดชัยภูมิ ก็ทราบดีว่ามี ส.ส.หลายพรรค แต่พื้นที่อีสานก็มีคนไม่ชอบผมเยอะอยู่เหมือนกันใช่หรือไม่ แต่ผมก็มา ตรงไหนยิ่งไม่ชอบก็ยิ่งต้องมาใหญ่ เพื่อให้เข้าใจว่าผมเป็นอย่างไร ผมเป็นคนที่ไม่พูดโกหก ไม่หลอกลวงใครเพราะเป็นทหารเก่าโกหกหลอกลวงคนไม่ได้ มาวันนี้ต้องการพูดความจริงใจของรัฐบาลว่ามีความห่วงใยต่อทุกคนอย่างไร นั่งรถ นั่งเครื่องบินมาก็ใจหายเพราะเห็นพื้นที่ค่อนข้างแห้งแล้งแหล่งน้ำก็มีน้ำน้อย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมาไม่ได้ทำเพื่อใครแต่ทำเพื่อประชาชนทั้งสิ้น ที่ผ่านมารอคอยโครงการวังสะพุงมากกว่า 30 ปี รัฐบาลนี้อยู่มาห้าปีก็เสร็จสิ้น สามารถกักเก็บน้ำได้อีกมาก มีพื้นที่รับประโยชน์อีกมากกว่า 200,000 ไร่ ประชาชนได้รับผลประโยชน์จำนวนมากถือเป็นอนุสรณ์ความผูกพันระหว่างตนกับชาวชัยภูมิในฐานะที่เป็นลูกหลานเจ้าพ่อพญาแล
วันนี้รัฐบาลให้ของขวัญปีใหม่และโครงการต่างๆ ลงมาบ้างแล้วแม้จะไม่มากนักแต่ก็ค่อยค่อยหาเป้าหมายและหาเงินใส่ลงมาซึ่งเราต้องใช้เงินมากมายมหาศาล วันนี้เราต้องหารายได้ให้กับประเทศเพิ่มมากขึ้นจึงจะสามารถดูแลทุกคนได้อย่างเต็มที่อย่างที่หลายคนต้องการ ทุกคนต้องเข้าใจ ซึ่งการเสียภาษีก็ถือเป็นหน้าที่ของทุกคน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ที่จังหวัดชัยภูมินอกจากพืชเศรษฐกิจตัวอื่นแล้วมีการปลูกต้นรักกันบ้างหรือไม่ ขอให้ปลูกต้นรักกันเยอะๆ ไม่ใช่แค่ต้นรักที่นำไป ร้อนเป็นพวงมาลัย แต่เป็นต้นรักจากใจมันจะผลิดอกออกผลอยู่ในตัวเรา เราต้องทำตัวเป็นต้นรัก โดยเอาความรักไปให้คนอื่น เดี๋ยวเราก็จะได้กลับมาเองไม่ว่าใครจะไม่ชอบหรือรังเกียจ ก็ให้ความรักไปเถอะคนเราคบกันบางคนก็มีดีบ้างไม่ดีบ้าง ดีมากดีน้อย แต่ความรักจะทำของให้คนดีมากขึ้น แต่ถ้าเราเลิกคบเขาไปเลยก็จะยิ่งไม่ดีมากขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ต้องลองคบเค้าดูหาส่วนดีและค่อยๆ แก้เขาก็จะทำให้สังคมเราดีขึ้น”
นายกฯ กล่าวว่า สิ่งสำคัญวันนี้คือการเรียนรู้และการรู้เท่าทันสถานการณ์ถ้าเราไม่สนใจที่จะปรับเปลี่ยนเราก็จะอยู่แบบเดิมก็จะต้องนั่งรอรับปัญหาและรอรัฐบาลช่วยจึงไม่เกิดความคิดใหม่ใหม่ขึ้นมาจนกลายเป็นประชาชนที่เฉยชาเราจะปล่อยเช่นนี้ไม่ได้ชาวอีสานจะต้องตื่นรู้เป็นประชาชนที่เข้มแข็งต้องเรียนรู้มากขึ้นอย่าให้มีคนมาว่าเราได้เพราะตนก็เป็นคนอีสานเช่นกัน ไม่อยากให้ใครเขาว่าตนว่าไม่ตื่นตัว ต้องกระตุ้น ตนเป็นคนอีสานเหมือนกับทุกคน เกิดที่โคราชแม่เป็นชาวชัยภูมิ
“จึงไม่ต้องมาผูกเสี่ยว เพราะมันเสี่ยวมาตั้งแต่เกิด มาวันนี้ก็มาหลายพรรคทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ ที่เหลือก็ติดประชุมสภา ทั้งหมดนี้คือพรรคที่สนับสนุนผม ส่วนพรรคที่ไม่สนับสนุนก็เป็นเรื่องของเขา ถ้าเขาไม่สนับสนุนผม ก็มายืนตรงนี้ไม่ได้ และถ้าพวกท่านไม่สนับสนุนเลือกเขาเข้ามาผมก็มาอยู่ตรงนี้ไม่ได้ นี่คือประเด็นและจุดสำคัญจะไม่พูดมากเดี๋ยวหาเรื่องอีก” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งด้วยว่า นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่มาครั้งนี้ไม่ค่อยสนใจ แต่สนใจอยู่อย่างเดียวคือการถ่ายรูปทะเบียนรถที่นายกรัฐมนตรีใช้เพื่อนำไปเสี่ยงโชค แล้วอย่ามาโทษกันหากไม่ถูก แต่ก็ขอให้ประสบความสำเร็จกันทุกคน แต่คงเชียร์อะไรไม่ได้ เพียงแต่อยากขอร้องว่าอย่าไปเสียงเงินเยอะ
นอกจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนทั้งมาตรการการตรึงราคาค่าไฟฟ้าระหว่างเดือน ม.ค.-เม.ย.ปีหน้า และมาตรการอื่นๆ โครงการต่างๆที่ได้กำหนดเป็นนโยบายไว้ โดยระบุว่าจะทำเป็นโครงการโครงการเรียงลำดับความสำคัญไป รวมทั้งกล่าวถึง โครงการในปี 2562 ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจำนวน 249 โครงการ รัฐบาลนี้อยู่มาห้าปีทำงานมาโดยตลอดทำมากกว่าสี่เท่าของรัฐบาลก่อนๆ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวรณรงค์ให้เลิกใช้ถุงพลาสติก โดยกล่าวว่า สร้างความเดือดร้อนให้กับทั้งคนและมนุษย์โดยเฉพาะสัตว์น้ำอย่างมาก อย่าลืมว่าถุงพลาสติก 1 ชิ้นใช้เวลาในการย่อยสลายถึง 450 ปี
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ที่พูดคล่องเพราะได้กินข้าวเหนียวเนื้อทอดหมูทอดระหว่างนั่งรถมาในช่วงเช้า ทราบว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้จัดให้ ตอนแรกว่าจะไม่กินแต่พอกินเข้าไปแล้วรู้เลยว่าไม่เคยกินข้าวเหนียวที่ไหนอร่อยมากที่สุดเท่านี้มาก่อน โดยเมื่อพูดถึงตรงนี้พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวผิดว่าเป็นข้าวเหนียวชุมพร แต่พอรู้ตัวว่าพูดผิดรีบกล่าวขอโทษทันทีว่า ขอโทษไม่มีข้าวเหนียวที่ไหนอร่อยเท่าข้าวเหนียวจังหวัดชัยภูมิ สงสัยจะเพี้ยนเสียแล้ว และยืนยันว่าเนื้อที่นี่อร่อยสุด ข้าวเหนียวเนื้อทอดข้าวเหนียวหมูทอดยอดเยี่ยมที่สุด ไม่เสียชื่อเมืองแม่ของตน
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวอวยพรด้วยว่าวันนี้เป็นวันคริสมาสต์ ขอให้กินใกล้บ้านไปก่อนจะไปกินไก่งวง ไก่บ้านเราอร่อยกว่ามากจึงขอฝากทุกคนรวมทั้ง ส.ส.ในพื้นที่ ภาครัฐข้าราชการทุกคน โดยเฉพาะข้าราชการอย่าปล่อยให้มีผู้กล่าวหาว่าเป็นข้าราชการเกียร์ว่าง ถ้าโทรไปแล้วประชาชนถามอะไรต้องตอบให้ได้ ถ้าไม่รู้ก็ต้องถามนาย แต่ถ้าไม่รู้ก็จะได้เปรียบทั้งอยู่ยวง ต้องตอบคำถามชาวบ้านให้ได้อย่าไปปฏิเสธ และขอให้ทุกคนมีความตั้งใจในการทำงาน รวมทั้งส.ส.ในพื้นที่และ ส.ส.พรรคอื่นๆด้วย ตนไม่ใช่ศัตรูของใครขอให้ร่วมกันพัฒนาเมืองชัยภูมิอย่างต่อเนื่องมีประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายนายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ และนายเชิงชาย ชาลีรินทร์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐได้เป็นตัวแทนประชาชนขอให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหา ราคามันสำปะหลัง ที่ปัจจุบันเหลือเพียงจังหวัดชัยภูมิเพียงจังหวัดเดียว ที่มีรูปแบบการซื้อขายมันสำปะหลังที่ยังใช้วิธีการแบบโบราณ โดยถูกหักค่าดิน 10% จากราคามันโดยผู้ซื้ออ้างว่าเป็นการหักสิ่งเจือปนเนื่องจากหัวมันนั้นอยู่ในดิน โดยพล.อ.ประยุทธ์ได้รับปากและมอบหมายให้กระทรวงเกษตรกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพาณิชย์ไปดำเนินการต่อ
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่เปิดเพลง ชัยภูมิบ้านพี่อีกรอบ พร้อมบอกอยากฟัง ก่อนจะเดินลงไปทักทายประชาชนโดยนายกรัฐมนตรีอารมณ์ดีทั้งรำวง ปรบมือ พร้อมร้องเพลงคลอ อย่างคึกครื้น ก่อนจะร่วมปลูกต้นมะม่วงพันธุ์เขียวเสวยและหญ้าแฝกร่วมกับประชาชน