ทอท.เปิดผลศึกษา 'ไออาตา' หนุนเทอร์มินัล 2 สุวรรณภูมิ
ทอท.เปิดผลการศึกษา “ไออาตา” ชี้ “เทอร์มินัล 2” เหมาะสมลงทุนมากกว่าขยายอาคารผู้โดยสาร เหตุช่วยลดความแออัด แถมไม่กระทบบริการ “ศักดิ์สยาม” รอรับฟังความเห็นเรื่องผลกระทบจราจร พร้อมเดินหน้าชงเข้า ครม.ไม่เกิน ก.พ.นี้
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expansion) หรือที่ก่อนหน้านี้เรียกว่าโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 (เทอร์มินัล 2) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยระบุว่า สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ได้ดำเนินการศึกษาแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่เหมาะสม โดยผลการศึกษาแล้วเสร็จประมาณต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา
สาระสำคัญแสดงให้เห็นว่าโครงการพัฒนาส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ เป็นทางเลือกในการพัฒนาที่มีความเหมาะสมมากกว่าโครงการพัฒนาส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 1 ด้านทิศตะวันตกและตะวันออก (East & West Wings)
เนื่องจากโครงการส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ จะดำเนินการบนพื้นที่ว่างเปล่าทางทิศเหนือของท่าอากาศยาน แต่โครงการลงทุนส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก จะกระทบต่อการให้บริการผู้โดยสาร เพราะเป็นการก่อสร้างบริเวณอาคารผู้โดยสารหลังที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ผลการศึกษา ยังมีข้อสรุปด้วยว่า โครงการส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ จะช่วยบรรเทาความแออัดในอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 1 ซึ่งจะส่งผลให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีความยืดหยุ่นมากขึ้น อย่างไรก็ดี ทอท.ก็สามารถดำเนินโครงการส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกเพิ่มเติมในภายหลังได้
นายนิตินัย ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ทอท.ได้ส่งเอกสาร และความคิดเห็นเกี่ยวกับการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งให้กระทรวงคมนาคม และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) พิจารณาควบคู่กันไปแล้ว จึงถือว่าอยู่ในขั้นตอนของการรอฟังผลพิจารณาจากทั้ง 2 หน่วยงาน
ทั้งนี้ หากกระทรวงคมนาคม และ สศช.ไม่มีความเห็นให้ศึกษา หรือรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม ทอท.ก็คาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในต้นปี 2563 ซึ่งหาก ครม.พิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการ ทอท.ก็จะเริ่มงานออกแบบก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังดังกล่าวทันที โดยคาดว่าจะใช้เวลาการออกแบบราว 1 ปี และยอมรับว่าปัจจุบันโครงการนี้ล่าช้ากว่าแผนมาแล้วกว่า 1 ปี
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การพัฒนาโครงการดังกล่าวมีความจำเป็นที่กระทรวงคมนาคม และ ทอท. จะต้องเร่งดำเนินการ โดยขณะนี้ทางกระทรวงคมนาคมรอผลการศึกษาการดำเนินการในโครงการดังกล่าว จาก ทอท. รวมทั้งยังรอความเห็นจากกรมทางหลวง (ทล.) ในประเด็นของการศึกษาผลกระทบจากปัญหาการจราจรบนทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) และถนนรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่าจะทำให้โครงข่ายทางถนน การจราจรติดขัดเพิ่มขึ้นหรือไม่
“ตอนนี้คงต้องรอความเห็นในเรื่องของโครงการที่ถูกตั้งคำถามให้มีความชัดเจน ก่อนที่กระทรวงฯ จะสรุปความเห็นเพิ่มเติมประกอบการเสนอขออนุมัติการดำเนินการต่อ ครม. เบื้องต้นก็คาดว่าจะสามารถเสนอ ครม. ได้ภายในเดือน ก.พ.นี้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ มีวงเงินลงทุนอยู่ที่ 4.2 หมื่นล้านบาท โดยทอท.ตั้งเป้าเปิดบริการปี 2566 – 2567 เป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาความแออัดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งอาคารดังกล่าวจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 40 ล้านคน และจะทำให้ปี 2567 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 82 ล้านคน
นอกจากนี้ ทอท.ยังมีแผนพัฒนาขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในระยะอื่นๆ ประกอบไปด้วย ระยะที่ 4 ก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 105 ล้านคนต่อปี และเที่ยวบินได้ 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และระยะที่ 5 ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ และการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 4