'ดีเอสไอ' ฟุ้งปราบ 3 คดีดังอาชญากรรมเทคโนโลยี
"ดีเอสไอ" ฟุ้งปราบ 3 คดีดังอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและทรัพย์สินทางปัญญา ปี 62
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.62 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงผลการปราบปรามอาชญากรรม ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและทรัพย์สินทางปัญญา ปี 2562 ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ถูกจับตามอง (WL) อันก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง ดีเอสไอจึงได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ โดยปี 2562 ดีเอสไอได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและทรัพย์สินทางปัญญาเสร็จสิ้นแล้ว 19 คดี โดยมีคดีสำคัญที่ประชาชนสนใจ ได้แก่
1.คดีการลักลอบนำสัญญาณการถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อันเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท เดอะ ฟุตบอล แอสโซซิเอชั่น พรีเมียร์ ลีก ลิมิเตด เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ 365sport.tv และเรียกเก็บเงินค่าสมาชิกเป็นรายเดือน ซึ่งดีเอสไอรับไว้ทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 65/2559 และต่อมาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ได้มีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยคนละ 1 ปี 6 เดือน โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี ปรับคนละ 1 ล้านบาทเศษ จำเลยได้ให้การรับสารภาพและยินยอมจ่ายค่าเสียหายเป็นจำนวนกว่า 15 ล้านบาท และยังมีเงินของกลางอีกกว่า 7 ล้านบาทที่ถูกริบในการกระทำละเมิดต่อลิขสิทธิ์ของพรีเมียร์ลีกในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในยอดเงินสูงสุดที่มีการชดใช้ค่าเสียหายคดีละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศไทย
2.คดีเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ออนไลน์ movie2free.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับดูภาพยนตร์ออนไลน์ฟรีทั้งในและต่างประเทศ ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์มากกว่า 3,000 เรื่อง และพบข้อมูลการกระทำความผิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 - 2562 มีผู้เข้าชม 800,000 – 900,000 IP Address ต่อวัน โดยยอดวิววันละประมาณ 10 ล้านวิว เป็นเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ออนไลน์อันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นอันดับต้นๆ ของโลก กลุ่มผู้กระทำผิดมีลักษณะการกระทำเป็นเครือข่าย โดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูงที่ซับซ้อนยากต่อการติดตามให้ถึงตัวผู้กระทำความผิด โดยเว็บไซต์ดังกล่าวมีรายได้จากโฆษณาเว็บไซต์พนันออนไลน์รวมประมาณ 25 เว็บไซต์ รายได้ประมาณ 5 ล้านบาทต่อเดือน ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทั้งเครือข่าย พร้อมทั้งดำเนินมาตรการทางภาษี
และ 3.คดีการนำเข้าและจำหน่ายสินค้าละเมิดเครื่องหมายทางการค้า ซึ่งเข้าข่ายการกระทำผิดอาญาที่เป็นคดีพิเศษที่ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 โดยดีเอสไอได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และเข้าตรวจค้นพบสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ประเภทแว่นสายตา แว่นตาแฟชั่น หมวก หัวเข็มขัด ที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า จำนวน 18,000 ชิ้น และแว่นตาที่ไม่มีเอกสารการเสียภาษีนำเข้า จำนวน 140,000 ชิ้น รวมสินค้าทั้งหมด 158,000 ชิ้น มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท นอกจากนี้ ดีเอสไอยังได้รับกรณีที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและทรัพย์สินทางปัญญาไว้เป็นเรื่องสืบสวนอีกหลายกรณี ซึ่งจะขยายผลและรับเป็นคดีพิเศษต่อไป