ปีใหม่คนไทยแห่เที่ยวนอก 'ญี่ปุ่น-ยุโรป-เกาหลี' ฮอต

ธนพล ชีวรัตนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โก ฮอลิเดย์ จำกัด ในฐานะนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดคนไทยเที่ยวต่างประเทศในช่วงหยุดยาวปีใหม่นี้ พบว่ากระแสการเดินทางดี เนื่องจากสายการบินต่างๆ โดยเฉพาะสายการบินต้นทุนต่ำ หรือโลว์คอสต์ 4-5ราย ต่างกระหน่ำดัมพ์ราคาตั๋วโดยสารกว่า20-30% ตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยเข้าไปจองตั๋วบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของสายการบินโดยตรง

ส่งผลให้ผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวเอาท์บาวด์ (ท่องเที่ยวขาออก) ปรับตัวด้านการขายแพ็คเกจทัวร์ไม่ทัน เนื่องจากซื้อที่นั่งบนเครื่องบินล่วงหน้ามาก่อนหน้านั้น จึงจำเป็นต้องหั่นราคาแพ็คเกจทัวร์สู้ ลดลงประมาณ10%

“คนไทยไปเที่ยวต่างประเทศช่วงปีใหม่จำนวนมากก็จริง แต่บริษัททัวร์เอาท์บาวด์ปรับตัวรับการดัมพ์ราคาตั๋วโดยสารของสายการบินโลว์คอสต์ไม่ทัน คือขายแพ็คเกจทัวร์ได้ แต่ไม่ได้กำไร เพราะต้องลดราคาแพ็คเกจทัวร์ขายสู้กับสายการบินที่ดัมพ์ราคาตั๋ว”

สำหรับจุดหมายปลายทางที่คาดว่าจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไทยสูงสุดในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ อันดับ1ยังคงเป็น ญี่ปุ่น อันดับ2ยุโรป จุดหมายที่โดดเด่นคือยุโรปตะวันออก อันดับ3เกาหลี รองลงมาเป็นจุดหมายในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคใต้และอีสาน

หลังตลาดนักท่องเที่ยวไทยได้รับการกระตุ้นจากมาตรการภาครัฐส่งเสริมท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งมาตรการชิม ช้อป ใช้ และมาตรการเสริมของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เช่น โครงการ100เดียวเที่ยวทั่วไทย โดยพบว่าภาพรวมช่วงเทศกาลปีใหม่นักท่องเที่ยวไทยซื้อแพ็คเกจทัวร์ไปเที่ยวทะเลในภาคใต้มากขึ้น20-30%เมื่อเทียบกับปีใหม่ที่แล้ว ช่วยเติมเต็มกระแสการเดินทาง เนื่องจากตลาดต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทยช่วงนี้ไม่มากนัก

ธนพล ประเมินด้วยว่าภาพรวมตลอดปี2562แนวโน้มคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศยังดี ไม่มีหยุด มีโอกาสแตะ14ล้านคนเพิ่มขึ้น10%เมื่อเทียบกับปี2561ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์เงินบาทแข็งค่า ทำให้คนไทยมีกำลังซื้อและจับจ่ายในต่างประเทศมากขึ้น ขณะที่สถานการณ์การเมืองของไทยยังเรียบๆ ไม่น่ามีอะไรมาฉุดบรรยากาศและมู้ดการท่องเที่ยวต่างประเทศไปจนถึงปี2563

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าตลาดไทยเที่ยวต่างประเทศปี2563มีโอกาสเติบโตดีต่อเนื่องทะลุ15ล้านคน รับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่น่าจะฟื้นตัวดีขึ้น และภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจสายการบินในไทยน่าจะยังรุนแรง เพราะมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเปิดสายการบินและเที่ยวบินใหม่มากขึ้น ทำให้ราคาตั๋วโดยสารถูกลง ส่งผลดีต่อนักท่องเที่ยวไทย โดยบริษัททัวร์เอาต์บาวด์ต้องปรับตัวให้ทันการแข่งขันและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป นิยมเดินทางด้วยตัวเองมากขึ้นต่อเนื่อง

ขณะที่ตลาดไทยเที่ยวไทย บริษัทนำเที่ยวได้ปัจจัยหนุนจากภาครัฐที่มีมาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายกระตุ้นตลาดการจัดประชุมสัมมนาและเดินทางข้ามจังหวัดในปี2563เป็นแรงจูงใจในการทำตลาดแก่บริษัทนำเที่ยว กำหนดอัตราการสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่20,000บาทต่อรถบัส1คัน ความจุ40คนขึ้นไป

ด้านยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ว่าสถิตินักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปต่างประเทศช่วง11เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-พ.ย.2562) มีจำนวนสะสมกว่า12.27ล้านคน เพิ่มขึ้น10%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ คือ ช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันและปิดภาคเรียน ตรงกับช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. และ ต.ค.-ธ.ค.

สำหรับปัจจัยหนุนให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของคนไทย มีเรื่องโปรโมชั่นด้านราคาทั้งตั๋วเครื่องบินและที่พัก การขยายเส้นทางการบินไปยังจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ๆ และเงินบาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินของประเทศที่เป็นจุดหมายของคนไทย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศถูกมองว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ โดยจุดหมาย5อันดับแรกที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยในปีนี้ อันดับ1ยังคงเป็นญี่ปุ่น รองลงมาคือเวียดนาม เกาหลี สปป.ลาว และไต้หวัน