รบ.ยันดูแลทุกชาติพันธุ์ในไทย วอนอย่าสร้างความสั่นคลอนสามัคคี
รัฐบาลยืนยันดูแลทุกชาติพันธุ์ในไทย วอนอย่าสร้างความสั่นคลอนต่อความสามัคคี อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.62 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลดูแลคนไทยและทุกชาติพันธุ์ที่อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง และขอร้องอย่านำประเด็นชาติพันธุ์มาสร้างความสั่นคลอนต่อความรักสามัคคีของคนในชาติ เชื่อมั่นว่าทุกคนบนแผ่นดินไทยต่างมีความรักประเทศไทย และอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดยรัฐบาลยืนยันดูแลทุกกลุ่มทุกชาติพันธุ์ตามกฎหมายและหลักมนุษยธรรม
นางนฤมล กล่าวว่า ชาติพันธุ์ม้งที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย เป็นชนกลุ่มน้อยเช่นเดียวกับกลุ่มบุคคลบนพื้นที่สูง เช่น ชาวเขาเผ่าต่างๆ ไทยใหญ่ จีนฮ่อ ไทยลื้อ และกลุ่มอื่นๆ ที่รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาเรื่องสถานะและสิทธิ โดยมีมติ ครม. ที่เกี่ยวข้องหลายมติ ได้แก่ 1. มติครม. วันที่ 7 ธค. 2553 กำหนดให้ชนกลุ่มน้อยที่ราชการได้จัดทำทะเบียนประวัติ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้เกิดในประเทศไทย ให้สถานะเป็นคนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย (ให้ขอใบสำคัญถิ่นที่อยู่) และถ้าจะขอมีสัญชาติไทย ให้ขอแปลงสัญชาติ
2. มติครม. วันที่ 7 ธ.ค. 2559 กำหนดให้บุตรของชนกลุ่มน้อยที่เกิดในประเทศไทยสามารถขอมีสัญชาติไทยได้ตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ โดย รมว.มหาดไทยมอบอำนาจให้นายอำเภอเป็นผู้อนุมัติ กรณีผู้ขอสัญชาติอายุไม่เกิน 18 ปี และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อนุมัติกรณีผู้ขอสัญชาติอายุเกิน 18 ปี
3. มติครม. วันที่ 5 ก.ค. 2548 กำหนดให้เด็กทุกคนทั้งไทยและต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารทะเบียน สามารถเข้าเรียนหนังสือในระดับการศึกษาภาคบังคับได้ทุกรายโดยรัฐสนับสนุนงบรายหัวให้ทุกปี
.4 มติครม. วันที่ 23 มี.ค. 2553 และ 20 เม.ย. 2558 อนุมัติให้สิทธิการรักษาพยาบาลแก่ชนกลุ่มน้อย และกลุ่มชาติพันธ์ุที่รัฐสำรวจจัดทำทะเบียนไว้ทุกคนโดยรัฐสนับสนุนงบรายหัวให้ทุกปี
นางนฤมล กล่าวว่า กล่าวว่า “ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ เป็นเวลาที่ทุกคนจะได้มีความสุข ได้อยู่ร่วมกับครอบครัว ขออย่าได้จุดประเด็นความขัดแย้งให้เกิดความขัดข้องหมองใจ และในช่วงเทศกาลนี้ รัฐบาลพร้อมดูแลพี่น้องประชาชนทุกคนให้เดินทางกลับบ้านเยี่ยมครอบครัวโดยสวัสดิภาพ และสั่งการให้ทุกหน่วยพร้อมช่วยเหลือประชาชนและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่”