‘วัลลภา’ นำทัพ ‘แอสเสท เวิรด์’ ผุด ‘ตึกสูงสุด’ เดสติเนชั่นโลก

‘วัลลภา’ นำทัพ ‘แอสเสท เวิรด์’ ผุด ‘ตึกสูงสุด’ เดสติเนชั่นโลก

ถือเป็นหนึ่งในข่าวใหญ่ของธุรกิจไทยเมื่อกลางปี 62 เมื่อ“เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” เขย่าพอร์ตธุรกิจครั้งใหญ่ มอบหมายให้ลูกสาว“วัลลภา ไตรโสรัส” กุมบังเหียนประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป หรือAWC ภายใต้ทีซีซีกรุ๊ป

ลุยจัดพอร์ตโฟลิโอธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุม 2 กลุ่ม ได้แก่ โรงแรมและบริการ (Hospitality)และกลุ่มอสังหาฯเพื่อการพาณิชย์ (Retail and Commercial Building)พา AWC แต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เริ่มการซื้อขายเมื่อวันที่ 10ต.ค.256 2ที่ผ่านมา

วัลลภา ซีอีโอ แห่ง AWC จึงถือฤกษ์ดีทยอยประกาศ แผนลงทุนและ ความร่วมมือกับพันธมิตร อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี2562เริ่มตั้งแต่แผนการใช้เงินลงทุนของAWCมูลค่ากว่า1แสนล้านบาท เพื่อลงทุนอสังหาฯในไทยช่วง 5 ปีนับจากนี้ ตั้งแต่ปี 2563-2567 ขยายพอร์ตโฟลิโอโตต่อเนื่อง แบ่งเป็นเงินลงทุนส่วนแรก 5.5 หมื่นล้านบาทที่เพิ่งผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการหรือบอร์ดของบริษัทฯเมื่อกลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เงินลงทุนส่วนที่ 2 อีก 4.8 หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อนำไปลงทุนในโครงการอื่นๆ ในอนาคต

157767056527

สำหรับเงินลงทุนส่วนแรก5.5หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น มูลค่าที่ดิน2.5หมื่นล้านบาท และมูลค่าการพัฒนาโครงการ3หมื่นล้านบาท บริษัทฯจะนำไปลงทุนพัฒนาและปรับปรุงโรงแรมอีก13แห่ง คิดเป็น4,085 ห้องพัก แบ่งเป็นโรงแรมเก่าที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง 6 แห่ง และโรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาใหม่ 7 แห่ง ทำให้ภายในสิ้นปี2568จะมีพอร์ตโรงแรมเติบโต2เท่า เพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่14แห่งคิดเป็น4,421 ห้องพัก เป็นทั้งหมด27แห่ง คิดเป็น 8,506 ห้องพัก ฟากธุรกิจค้าปลีกปัจจุบันมี 11 โครงการ อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 2โครงการ ได้แก่ เออีซี เทรด เซ็นเตอร์ และคอมมูนิตี้มาร์เก็ต บางกะปิ ส่วนธุรกิจอาคารสำนักงานปัจจุบันมี 4 แห่งในพอร์ต

วัลลภา เล่าว่า หนึ่งในไฮไลต์คือโครงการอสังหาฯแบบผสมผสานหรือมิกซ์ยูสแห่งใหม่ขนาดใหญ่ “AWC Center Pattaya” บนที่ดินทั้งหมด16ไร่ในพัทยากลางมูลค่าลงทุนรวม2หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าพัฒนาโครงการนี้ให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ระดับ ไอคอนจำลองแนวคิดจากโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ในกรุงเทพฯมาต่อยอด

ประกอบด้วย แหล่งชอปปิง, แหล่งท่องเที่ยว กำหนดธีมแนวศิลปะสร้างความบันเทิง ผ่านการเล่าเรื่องนิทานของไทย และโรงแรมหรู2แบรนด์ในตึกเดียว ความสูง60ชั้น ว่าจ้างเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลรับบริหาร ได้แก่ โรงแรมพัทยา แมริออท มาร์คีส์ เจาะตลาดนักเดินทางกลุ่มประชุมสัมมนา (ไมซ์) และโรงแรม เจดับบลิว แมริออท เดอะ พัทยา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา หวังมัดใจนักเดินทางยุคใหม่ รวมจำนวนห้องพักของทั้ง2แบรนด์อยู่ที่1,298ห้องพัก พื้นที่จัดงานเลี้ยงและไมซ์กว่า1หมื่นตารางเมตร และภัตตาคารกับร้านอาหาร11แห่ง

157767053666

ดูเหมือน AWC จะติดใจการพัฒนาตึกสูงระดับ ไอคอนิก แลนด์มาร์ค จึงโฟกัสที่ดินในโครงการเอเชียทีคฯเพิ่ม ล่าสุดจรดปากกาไปเมื่อวันที่18ธ.ค.ที่ผ่านมา วัลลภาประกาศจับมือกับบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลก “Adrian Smith + Gordon Gill Architecture” (AS+GG) เพื่อพัฒนามิกซ์ยูสแห่งใหม่ และไม่ใช่ตึกสูงทั่วไป แต่เป็นตึกสูงระฟ้าระดับเวิลด์คลาสริมน้ำเจ้าพระยา จนต้องใช้คำว่าเมกะโปรเจค ในการเรียกขาน

แม้ยังไม่มีชื่อเฉพาะของโครงการอย่างเป็นทางการ แต่ วัลลภา ขยายความให้ฟังว่า มีความเป็นไปได้ที่เมกะโปรเจคนี้จะเป็นตึกสูงที่สุดในประเทศไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความสูงของตึกไว้ไม่ต่ำกว่า 100 ชั้น หลังจับมือกับบริษัท AS+GG ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบตึกสูงระดับไอคอนของโลก ผลงานที่ประจักษ์แก่สายตาคือ ตึกสูงที่สุดในโลกปัจจุบันBurj Khalifaในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และว่าที่ตึกสูงสุดแห่งใหม่ในโลกด้วยความสูงกว่า 1 กิโลเมตร อย่างJeddah Towerเมืองเจดดาห์ ซาอุดิอาระเบีย มีกำหนดเปิดให้บริการในปี2563

สำหรับองค์ประกอบของเมกะโปรเจคนี้ จะมีพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้งรีเทลและคอมเมอร์เชียล, จุดชมวิว, แบรนเด็ด เรสซิเดนส์ ที่พักอาศัยแบบเช่าสิทธิ์ระยะยาว (ลีสโฮลด์) และโรงแรมหรูระดับ5 และ 6 ดาว จำนวน 2 แบรนด์ มอบหมายให้พันธมิตรอย่างเครือแมริออทฯบริหารทั้งแบรนเด็ด เรสซิเดนส์ และโรงแรมภายในตึกเดียวบนที่ดินในเฟส2.1ของเอเชียทีคฯ หรือตรงบริเวณลานจอดรถปัจจุบันนั่นเอง คาดก่อสร้างแล้วเสร็จในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือปี 2568

“AWC ตั้งใจสร้างตึกสูงระดับเมกะโปรเจคนี้เพื่อตอบโจทย์เรื่องคุณค่าระยะยาวแก่เมืองและชุมชนโดยรอบ เป็นภาพจำของประเทศไทย และ Represent ความเป็นกรุงเทพฯ ใครเห็นตึกนี้แล้วต้องรู้ได้ในทันทีว่านี่คือกรุงเทพฯ สู่เป้าหมายการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในฐานะเวิลด์ เดสติเนชั่นแห่งใหม่ วัลลภา ย้ำชัดส่งท้าย