'วราวุธ' เชื่อรัฐนาวาของ 'ประยุทธ์' จะไปได้ตลอดรอดฝั่ง
"วราวุธ" เชื่อรัฐนาวาของ "ประยุทธ์" จะไปได้ตลอดรอดฝั่ง มองการชุมนุมเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น พร้อมย้ำทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่เอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายใด
เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.62 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมาภายใต้เสียงปริ่มน้ำ จะเห็นว่าทุกครั้งสามารถแก้ปัญหาได้ แต่เป็นธรรมดาของสภาที่มาจากการเลือกตั้ง แม้จะมีภารกิจและความท้าทายแต่เชื่อว่าการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีจะสามารถนำรัฐนาวาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปได้ตลอดรอดฝั่งแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงกาารอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมาถึงและต้องให้กำลังใจฝ่ายค้านเพราะตลอด 5-6 ปี นับว่าเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายค้านได้มีโอกาสทำหน้าที่ตรวจสอบข้อบกพร่องของรัฐบาล
ส่วนการชุมนุมที่อาจเกิดขึ้น ส่วนตัวคิดว่าไม่ควรเกิดขึ้นเพราะท้ายที่สุดผลของการชุมนุม จะเป็นตัวจุดชนวนความขัดแย้ง ซึ่งต้องควบคุมไม่ให้เกิดเหตุบานปลายอย่างที่ผ่านมา และท้ายที่สุดก็มีบทเรียนให้เห็นเป็นอย่างดีว่าไม่ก่อให้เกิดผลดี
ขณะที่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนรวมถึงการทำงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาตและสิ่งแวดล้อม ที่จะมีพระราชบัญญัติตัวใหม่ เช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญที่มีทั้งข้อดี และบางส่วนที่จะต้องปรับปรุงโดย ประเด็นสำคัญคือการรับฟังความเห็นของประชาชนอะไรที่เป็นประโยชน์ ต้องรับฟังเสียงประชาชน
นายวราวุธ ยังย้ำการทำหน้าที่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลในกระทรวงฯ ที่ขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการรุกที่ป่าที่มีคนของพรรคร่วมเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรณีที่ดินของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ซึ่งประชาชนอาจยังกังวลว่าจะเอื้อประโยชน์ให้คนในพรรคร่วม ว่า กระทรวงได้แสดงให้เห็นแล้วว่าจริงจังในการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาไม่ว่าเป็นคดีของบุคคลใด ใช้มาตราฐานทางกฎหมาย และแผนที่เดียวกัน สามารถให้ความมั่นใจแก่ประชาชนได้ ซึ่งต้องใช้เวลาตามกระบวนการทำงานของภาครัฐ อาจไม่รวดเร็วถูกใจประชาชน เพราะต้องรอบคอบว่าไปตามความถูกต้อง
ส่วนกรณีอดีต 4 ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ขณะนี้เขื่อว่า ทุกคนมีทิศทางที่ชัดเจนแล้ว และไม่มีกระแสว่าจะเข้าร่วมกับพรรคชาติไทยพัฒนา
ในช่วงท้ายนายวราวุธ ยังย้ำเรื่องการรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ที่หัวใจสำคัญในการร่วมกันรณรงค์เรื่องนี้คือการมีวินัยของคน ฝากย้ำ ถึงประชาชนร่วมกันลดใช้ถุงพลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง ที่จะสามารถลดปริมาณขยะปีละหลายล้านถุง และขอให้พยายามช่วยกันพกถุงผ้า กระบอกน้ำติดตัว โดยก้าวต่อไปของกระทรวงฯคือการรณรงค์เลิกใช้หลอดพลาสติก ถาดโฟมบรรจุอาหาร เพื่อลดปริมาณขยะในประเทศไทย เพื่อส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้กับลูกหลาน