ถอดบทเรียน 'บ.ชั้นนำโลก' ปรับตัวรับเทคโนโลยีเปลี่ยน
ตลอดปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีแห่งการปรับตัวครั้งใหญ่ของบรรดาบริษัทชั้นนำโลก เพราะถูกกดดันจากการหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยี หากไม่เร่งปรับตัวก็จะสูญเสียโอกาสในการทำตลาดและเสียเปรียบในแง่ของการแข่งขัน
ล่าสุด เว็บไซต์อินโดไซต์ดอทคอม ได้เผยแพร่รายชื่อ 20 บริษัทที่ปรับตัวเพื่อความอยู่รอดหลังจากถูกดิสรัปจากเทคโนโลยีในปี 2562
เริ่มจาก อันดับ 1 เน็ตฟลิกซ์ ที่แรกเริ่มทำธุรกิจให้เช่าวิดีโอ แต่ด้วยการแข่งขันที่รุนแรง ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับการถูกดิสรัปจากเทคโนโลยี ทำให้บริษัทต้องปรับรูปแบบธุรกิจใหม่มาให้บริการวิดีโอสตรีมมิงแทนและประสบความสำเร็จอย่างงดงามในฐานะผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิงระดับโลก
"หัวใจการดำเนินกลยุทธทางธุรกิจของเน็ตฟลิกซ์ มี 3 ด้านคือ การให้ความสำคัญกับไอเดียดี ๆ ในระดับเดียวกับการให้ความสำคัญเรื่องบิ๊กดาต้าซึ่งช่วยให้ธุรกิจของเน็ตฟลิกซ์โดดเด่น ที่มีสมาชิกกว่า 150 ล้านคนทั่วโลก"
2. เริ่มต้นด้วยการดิสรัปตัวเองก่อนที่จะคิดดิสรัปอุตสาหกรรม สิ่งที่เน็ตฟลิกซ์ดิสรัปตัวเองคือ เริ่มหันมาจับเทคโนโลยีมากขึ้น ลุยทำแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่ง จนทุกวันนี้มีมูลค่ากิจการหลักแสนล้านดอลลาร์
3. การดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจต้องสอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร หลายครั้งที่เน็ตฟลิกซ์ใช้วิธีจ้างคนออก โดยจ่ายเงินให้อย่างยุติธรรม เพียงเพราะเห็นว่าคน ๆ นั้นไม่เหมาะกับตำแหน่งงานนั้น ๆ อีกต่อไป หรือหากต้องการคนที่เก่งมาก ๆ เข้ามาไว้ในองค์กรในช่วงเวลานั้น ๆ ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเรียกเงินเดือนมากมายแค่ไหน เน็ตฟลิกซ์ก็พร้อมจ้าง เพราะถ้าทำให้เน็ตฟลิกซ์เติบโตก็ไม่ควรรีรอ และบางครั้งปัญหาบางอย่างก็ใช้เงินแก้ได้
อันดับ 2 อะโดบี บริษัทให้บริการซอฟต์แวร์ที่ปรับตัวจนปัจจุบันก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์กราฟฟิกที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก อันดับ 3 บริษัทอเมซอน เริ่มต้นจากการขายหนังสือทางออนไลน์ จนปัจจุบัน เป็นผู้นำในธุรกิจอีคอมเมิร์ซของสหรัฐ
เจฟฟ์ เบซอส ก่อตั้งบริษัทอเมซอนเมื่อปี 2537 และเริ่มเปิดให้บริการออนไลน์ในปี 2538 โดยเริ่มจากการขายหนังสือออนไลน์ และขยายกิจการทั้งในด้าน วีเอสเอช ดีวีดี ซีดีเพลง ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ วีดิโอเกม เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ อาหาร ฯลฯ
เว็บไซต์อเมซอนยังมีเว็บไซต์ย่อยแยกออกมาสำหรับขายของในประเทศอื่นนอกเหนือจากสหรัฐ ได้แก่ แคนาดา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส จีน และ ญี่ปุ่น ซึ่งประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ยังสามารถซื้อของผ่านอเมซอน โดยการส่งสินค้าข้ามประเทศได้
อันดับ 4 เทนเซนต์ เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทวางระบบคอมพิวเตอร์และปรับตัวจนเป็นบริษัทไอทีอันดับ1ของจีน โดยเทนเซ็นต์ ถือกำเนิดเมื่อปี 2541 ด้วยเงินทุน 500,000 หยวน ในช่วงแรกให้บริการด้านการวางระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายสำหรับองค์กรเป็นหลักและเปิดตัวโปรแกรมคิวคิว ครั้งแรกเมื่อเดือน ก.พ. 2542 พร้อมกับการเปิดตัวเว็บไซต์ คิวคิว หลังการเปิดให้บริการ คิวคิว ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในตลาดจีนและกลายเป็นโปรแกรมไอเอ็ม ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในจีน ด้วยตัวเลขสมาชิกสูงถึง 448 ล้านคน (นับจนถึงครึ่งปีแรกของปี 2552)
ส่งผลให้ “หม่า ฮั่วเถิง” ผู้ก่อตั้งบริษัทเทนเซนต์ กลายเป็นคนดังในสังคมจีนอย่างรวดเร็ว และได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารไทม์ ให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลที่มีอิทธิพลต่อโลกเมื่อปี 2551 ซึ่งใน 100 บุคคลนี้มีชาวจีนแผ่นดินใหญ่ติดอันดับเพียง 5 คนเท่านั้น
อันดับ 5 บริษัทไมโครซอฟท์ เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ จนปัจจุบัน เป็นบริษัทให้บริการด้านซอฟต์แวร์เพื่อธุรกิจบนพื้นฐานคลาวด์ ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ที่ครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดคือ ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ วินโดวส์ และไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ
จุดเริ่มต้นของบริษัทคือการพัฒนาและจำหน่ายตัวแปลภาษาเบสิก สำหรับเครื่องแอทแอร์ 8800 หลังจากนั้น ไมโครซอฟท์เริ่มมีอิทธิพลต่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์ภายในบ้าน โดยการออกระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ดอสเมื่อช่วงกลางยุค 1980 ในสายการผลิตของไมโครซอฟท์ วินโดวส์ โดยได้รับความนิยมจากผู้ใช้คอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี
อันดับ 6 บริษัทอาลีบาบา ประกอบธุรกิจหลายประเภท ทั้งอีคอมเมิร์ซ ค้าปลีก อินเทอร์เน็ต เอไอ และเทคโนโลยีข้ามชาติของจีน ก่อตั้งเมื่อปี 2542 เน้นให้บริการขายแบบลูกค้าต่อลูกค้า ธุรกิจต่อลูกค้า และธุรกิจต่อธุรกิจผ่านเว็บพอร์ทัล ตลอดจนบริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ เสิร์ชเอนจิน ซื้อสินค้า และบริการคอมพิวเตอร์แบบคลาวด์ บริษัทเป็นเจ้าของและดำเนินการธุรกิจหลากประเภททั่วโลกในหลายส่วน และนิตยสารฟอร์จูน ระบุว่าเป็นบริษัทที่ได้รับความชื่นชมมากที่สุดในโลกบริษัทหนึ่ง
อาลีบาบา เป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่สุดและมีมูลค่ามากที่สุดในโลกตั้งแต่เดือนเม.ย. ปี2559 ดำเนินธุรกิจในกว่า 200 ประเทศ มียอดขายและกำไรแซงหน้าผู้ค้าปลีกทุกรายในสหรัฐรวมกัน รวมทั้งวอลมาร์ท อเมซอนและอีเบย์ ตั้งแต่ปี 2558
อันดับ 7 บริษัทออร์สเต็ด เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทสำรวจแหล่งก๊าซ-น้ำมัน แต่ปัจจุบัน เป็นบริษัทพลังงานลมรายใหญ่สุดของโลก อันดับ 8 อินทูอิท เริ่มต้นด้วยการเป็นบริษัทซอฟต์แวร์องค์กร แต่ปรับตัวเพื่อความอยู่รอดจนกลายมาเป็นบริษัทวางระบบอีโคซิสเต็มการบริการการเงินให้เอสเอ็มอี อันดับ 9 บริษัทผิงอัน บริษัทประกันของจีนที่ปัจจุบันกลายเป็นบริษัทฟินเทคบนพื้นฐานคลาวด์ อันดับ 10 ดีบีเอส เริ่มต้นดำเนินธุรกิจด้านธนาคารที่ปัจจุบันกลายเป็นธนาคารดิจิทัลแบบเต็มตัวแล้ว