แชร์ลูกโซ่เงินดิจิทัล 'FOIN' ดิ่ง 99% กูรูคาดเสียหายกว่า 'หมื่นล้าน'

จากกรณีที่สกุลเงินดิจิทัล FOIN ซึ่งซื้อขายอยู่ในแพลทฟอร์มต่างประเทศ ราคาร่วงลงกว่า 99% จากระดับ 93,000 บาท ลงมาเหลือเพียง 96 บาท ภายในเวลาไม่กี่นาที และล่าสุด FOIN ได้ถูกถอดออกจากแพลนฟอร์มซื้อขายไปแล้ว

ทั้งนี้ แชร์ลูกโซ่ FOIN ถูกรับเป็นคดีพิเศษภายใต้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI แล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุถึงตัวเลขความเสียหายในประเทศไทยได้ชัดเจน แต่ข้อมูลจากสำนักข่าว Taiwan News ระบุตัวเลขความเสียหายจากเว็บไซด์ financial.org น่าจะอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท

แหล่งข่าวในวงการเงินดิจิทัล เปิดเผยว่า การที่ราคา FOIN ล่วงลงมาอย่างมากในตอนนี้ เนื่องจากเมื่อถึงจุดหนึ่งที่สกุลเงินหมดอายุ หรือมีเจ้ามือบางรายขายทิ้ง และแม่ข่ายเริ่มรู้จึงทยอยขายทิ้ง ซึ่งผู้ที่เข้ามาเป็นรายสุดท้ายจะเสียประโยชน์มากที่สุด นี่คือ ‘วงจรของแชร์ลูกโซ่’

ทั้งนี้ ช่วงปี 2562 ที่ผ่านมา ในวงการเงินดิจิทัลได้แจ้งเตือนกันมาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี แต่ยังมีผู้ที่ยังนำเงินไปลงทุน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ถูกหลอกลวงและสูญเงินจำนวนมาก สำหรับกรณีของ FOIN ประเมินว่า เงินลงทุนทุกๆ 1 ล้านบาท จะลดลงเหลือไม่ถึง 6,000 บาท

ด้วยปริมาณเหรียญ FOIN ทั้งหมด ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 91,205,322 เหรียญ และมูลค่าใน exchange อยู่ที่ 0.45 BTC ต่อ 1 FOIN ซึ่งเป็นราคาสูงสุด แต่จากปริมาณการเทรด มีแค่ 102.355 BTC คิดเป็นจำนวนเหรียญ 43,540 FOIN หรือคิดเป็นมูลค่าการเทรดประมาณ 20 ล้านบาท จะเห็นว่า จำนวนปริมาณการเทรดน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนเหรียญทั้งหมด

“รูปแบบการหลอกลวงแชร์ลูกโซ่เงินดิจิทัล ก็มาในรูปแบบเหมือนๆ กัน เพียงแค่เปลี่ยนชื่อ และแอบอ้างว่าเป็นสกุลเงินคริปโตเคอเรนซี่ที่อยู่บนบล็อกเชน และสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูง เช่น จะจ่ายปันผล 20% ต่อวัน ถ้าตัดสินใจนำเงินมาลงทุน แน่นอนว่าแชร์ลูกโซ่มีเครือข่ายทั่วโลก และเริ่มเข้ามาในไทยตั้งแต่มีแชร์แม่ชะม้อย เพียงแต่ทุกวันนี้เปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ เข้าไปในทุกสินทรัพย์”

ดังนั้น แนะนำ ผู้ลงทุนควรมีความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่จะเข้าไปลงทุนในแต่ละเหรียญอย่างแท้จริงก่อนตัดสินใจเข้าลงทุน เพราะคนส่วนใหญ่ที่โดนหลอกและสูญเสียเงิน เกิดจากความโลภหรือเพียงแค่ลงทุนตามเพื่อน