สังหารนายพลอิหร่านฉุดดาวโจนส์ดิ่งกว่า 200 จุด
หุ้นสหรัฐร่วงหนักในวันศุกร์ (3 ม.ค.) หลังรัฐบาลวอชิงตันยืนยันสั่งโจมตีทางอากาศสังหารนายพลระดับสูงของอิหร่าน ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่ง และเพิ่มความกังวลว่าจะเกิดความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์การเมืองรอบใหม่
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ลดลง 233.92 จุด หรือ 0.6% ปิดที่ 28,634.88 จุดในการซื้อขายวันศุกร์ ทำสถิติร่วงหนักสุดในวันเดียวนับตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ลดลง 0.7% แตะ 3,234.85 จุด ขณะที่แนสแด็กปิดที่ลดลง 0.8% แตะ 9,020.77 จุด
ช่วงเปิดตลาด ดาวโจนส์ร่วงหนักกว่า 360 จุดเป็นเวลาสั้น ๆ ก่อนจะฟื้นตัวเล็กน้อยในภายหลัง ขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินปิดลดลงกันถ้วนหน้าจากความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนราคาเชื้อเพลิงพุ่ง โดยหุ้นของยูไนเต็ด แอร์ไลน์, อเมริกัน แอร์ไลน์ และเดลต้า แอร์ไลน์ ต่างปิดร่วงกว่า 1.6% ในวันศุกร์
ตลาดหุ้นที่ร่วงหนักเกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากหุ้นสหรัฐทำสถิติพุ่งนิวไฮรับปีใหม่เมื่อวันพฤหัสบดี (2 ม.ค.) แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 300 จุด เอสแอนด์พี 500 และแนสแด็กปิดบวก 0.8% และ 1.3% ตามลำดับ ทะยานต่อเนื่องหลังจากปิดปี 2562 อย่างแข็งแกร่ง
วานนี้ สหรัฐใช้ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศที่สนามบินนานาชาติกรุงแบกแดดของอิรัก ส่งผลให้นายพลกาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของอิหร่าน และนายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดิส รองผู้นำกองกำลังฮาชด์ชาบีของอิรักซึ่งมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลเตหะราน เสียชีวิต
ด้านอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประกาศพร้อมตอบโต้สหรัฐ ขณะที่นายอาเดล อับดุล มาห์ดี รักษาการนายกรัฐมนตรีอิรัก กล่าวประณามการโจมตีดังกล่าว โดยมองว่าเป็นการแสดงความก้าวร้าวต่อรัฐบาลและชาวอิรัก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐทวีตหลังการโจมตีวานนี้ว่า นายพลโซไลมานี มีส่วนรับผิดชอบโดยตรงต่อการเสียชีวิตของคนหลายล้านคน และสมควรถูกกำจัดก่อนหน้านี้หลายปี