มือดีแอบขุดไข่เต่ามะเฟืองเกลี้ยงหาดพังงา

วันนี้ (4 ม.ค.) นายหฤษฎ์ชัย ฤทธิช่วย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เช้ามืดที่ผ่านมา ชุดลาดตระเวนเฝ้าระวังการขึ้นมาวางไข่เต่าทะเลของอุทยานฯ ได้ตรวจพบร่องรอยการขึ้นมาวางไข่ของแม่เต่าขนาดใหญ่ บริเวณชายหาดติดโขดหินเขาหน้ายักษ์ จึงได้ประสานไปยังศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาในการขุดหาเป็นเวลานานจึงพบ ไข่ลม จำนวน 2 ฟอง ซึ่งคาดว่า จะมีมือดีมาแอบขุดไปก่อนเจ้าหน้าที่จะเดินทางมาพบ

เมื่อตรวจวัดขนาดของรอย พบว่ามีความกว้างของพายจากซ้ายถึงขวา 155 เซนติเมตร อก 50 เซนติเมตร คาดว่าเป็นแม่เต่าขนาดใหญ่ และดูจากลักษณะของไข่ลมที่เหลือ ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นเต่ามะเฟือง คาดว่าขึ้นมาวางไข่ในช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น้ำทะเลขึ้นสูงสุด ขณะนี้อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขโมย

ขณะที่ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่าย กิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า เต่ามะเฟืองเป็นสัตว์สงวน การขโมย/จำหน่าย/ครอบครองไข่เต่า มีโทษจำคุก 3-15 ปี ปรับ 3 แสน-1.5 ล้านบาท ซึ่งรุนแรงมาก เป็นโทษตาม พรบ.สงวนคุ้มครอง (2562) ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้ว ส่วนผู้ที่อยากได้เงิน เมื่อพบเห็นให้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ กองทุนอนุรักษ์ไข่เต่าที่ช่วยกันทำโดยมีภาคเอกชนสนับสนุน ก็จะทำการมอบเงินจำนวน 20,000 บาทให้ทันที

"ที่ผ่านมาก็มีคนแจ้งและได้เงินรวดเร็วทุกราย และที่สำคัญสุด ๆ เพราะเต่ามะเฟืองคือหนึ่งในสัตว์หายากสุดในทะเลไทย ไม่งั้นจะเป็นสัตว์สงวนทำไม 5-6 ปีที่ผ่านมา เราไม่เจอเต่าเลย เจอแต่ศพกินขยะทะเล กระทั่งปีที่ผ่านมา ทั้งประเทศได้ช่วยกัน จนสามารถฟักลูกเต่าออกมาได้มากกว่า 130 ตัว และปีนี้ ก็พบมีการกลับมาวางไข่แล้วถึงสองรัง โดยคาดว่าน่าจะได้สักร้อยตัว"

ส่วนแม่เต่ารังที่สามที่โดนถูกขโมยไข่เต่าไปนั้น ผศ.ดร.ธรณ์คาดว่าน่าจะฟักได้ประมาณ 50 ตัว เป็น 1 ใน 3 ของเต่ามะเฟืองทั้งฤดู จึงอยากขอให้ทางจังหวัดดำเนินการให้ถึงที่สุด และฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า อย่าให้ชื่อเสียงทุกอย่างที่คนพังงาช่วยกันทำมา พังพินาศสิ้นเพราะน้ำมือคนเพียงไม่กี่คน