เปิด 3 ช่องทาง 'ลงทุนทองคำ' ช่วงขาขึ้น
เปิด 3 ช่องทาง "ลงทุนทองคำ" ช่วงขาขึ้น ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่สั่นคลอนของนักลงทุนหลังสหรัฐฯ และอิหร่านจ่อสงคราม
สถานการณ์ความขัดแข้งระหว่างสหรัฐอเมริกา และอิหร่าน ส่อแววยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้มีการลงทุนในทองคำที่เพิ่มมากขึ้น สะท้อนจากข้อมูลสมาคมค้าทองคำ ที่ราคาขายทองคำแท่ง 96.5% ดันราคาขายขึ้นจาก 22,150 บาท วันที่ 4 ม.ค.63 ขึ้นมาอยู่ที่ 22,300 บาท ในวันที่ 7 ม.ค.63 ทำให้หลายๆ คนเริ่มหันมาสนใจการลงทุนทองคำในระยะนี้
อย่างไรก็ดี เมื่อขึ้นชื่อว่า “การลงทุน” ย่อมมีความเสี่ยงตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉะนั้นก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในทองคำ ควรศึกษาลักษณะการลงทุนในทองคำให้เข้าใจถึงโอกาส และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นก่อน เพื่อให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่คาดหวัง และไม่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มที่อาจใช้โอกาสราคาทองคำขึ้นมาชักชวนหลอกลงทุนด้วย
เมื่อย้อนมองดูรูปแบบการลงทุนในทองคำในประเทศไทยเอง มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีลักษณะการลงทุน และความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป โดยหลักๆ มีการลงทุนที่เน้นทองคำ 3 รูปแบบ ได้แก่
- ลงทุนโดยตรง
ปัจจุบันการลงทุนในทองคำโดยตรงสามารถทำได้รูปแบบ ตั้งแต่เดินไปซื้อขายทองที่หน้าร้าน การซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตโดยตรงกับระบบของร้านทองร้านใดร้านหนึ่ง หรือแม้แต่การซื้อผ่านแพลตฟอร์มตัวกลางที่ให้บริการซื้อทองคำ
วิธีสุดคลาสสิกที่สร้างความมั่นใจให้กับ "นักเลงทองรุ่นใหญ่" คือการเดินทางไปร้านทองเพื่อติดต่อซื้อขายที่ร้านโดยตรง ซึ่งการซื้อทองในลักษณะนี้ลดน้อยถอยลงไปจากเดิมเนื่องจากต้องเสียต้นทุนในการเดินทางทั้งเรื่องเงินและเวลาในการเดินทาง เนื่องจากปัจจุบัน สามารถซื้อขายทองผ่านอินเทอร์เน็ตโดยตรงจากร้านทองร้านใดร้านหนึ่งได้อย่างสะดวก และเชื่อถือได้ สืบเนื่องจากการที่ร้านทองที่มีชื่อเสียงหลายแห่งลงทุนในเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ในการซื้อขายทองโดยตรงกับทางร้าน ที่สะดวกรวดเร็วมากขึ้น และสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ได้มากขี้นในเวลาเดียวกัน
ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากการซื้อขายทองแบบปกติแล้ว ร้านทองยังเริ่มมีบริการรูปแบบใหม่ๆ ออกมา เช่นบริการ “ออมทอง” ซึ่งหมายถึงการทยอยซื้อทอง ทยอยสะสมจากเงินหลักพันเพื่อสะสมให้ถึงจำนวนทองที่กำหนด และสามารถติดต่อรับทองคำแท่งมาเป็นสินทรัพย์ส่วนตัวได้ที่หน้าร้าน เช่น ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง, ห้างทองแม่ทองสุก ฯลฯ
สำหรับการลงทุนที่เป็นการซื้อทองคำโดยตรง จะมีทั้งการลงทุนในทองแท่ง และทองคำรูปพรรณ ซึ่งสามารถเลือกได้ตามความพึงพอใจของแต่ละคน เพราะมีข้อดีข้อเสียต่างกัน
ถ้าเป็น "ทองคำแท่ง" ก็จะมีข้อดีคือ ไม่เสียค่ากำเหน็จในการซื้อขายจึงอาจมีราคาโดยรวมถูกกว่าทองคำรูปพรรณเล็กน้อยในน้ำหนักที่เท่ากัน แต่มีข้อเสียคือใช้เป็นเครื่องประดับไม่ได้ ต้องเก็บรักษาไว้เฉยๆ และอาจต้องมีต้นทุนค่าเก็บรักษาตามมา เช่น กรณีที่มีทองคำแท่งมากๆ อาจต้องฝากในตู้นิรภัยกับธนาคารเพื่อความปลอดภัย ซึ่งมีค่าธรรมเนียมในการเก็บรักษาของธนาคาร
ส่วนข้อดีของ "ทองคำรูปพรรณ" คือ มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก ทำให้มีตั้งแต่ราคาต่ำเข้าถึงง่าย ไปถึงราคาสูง และสามารถใส่เป็นเครื่องประดับได้ ทั้งนี้ ทองรูปพรรณก็มีข้อเสียคือ จะต้องเสียค่ากำเหน็จในการซื้อขาย และราคาอาจตกลงเมื่อขายคืนในกรณีที่ทองมีร่องรอยการถูกใช้งาน หรือขายคืนกับคนละร้านที่ซื้อมา
- Gold Futures
Gold Futures เป็นเครื่องมือที่ผู้ลงทุนสามารถใช้ทำกำไรได้ตามความคาดการณ์ที่มีต่อราคาทองคำได้ทั้งในภาวะราคาทองขาขึ้น และราคาทองขาลง ด้วยคุณลักษณะเด่นที่สามารถซื้อก่อนขายหรือขายก่อนซื้อก็ได้ และใช้เงินลงทุนน้อย ประกอบกับทั้งราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวที่ไม่สัมพันธ์กับราคาหุ้น โกลด์ฟิวเจอร์ส จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการทำกำไรและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน
ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์ส ได้ผ่านระบบซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์ของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(TFEX) โดยมี บริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ประกันการชำระราคาจากการซื้อขาย และมีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นผู้กำกับดูแลการดำเนินงานของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและบริษัทสมาชิก
โดยตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเปิดซื้อขาย Gold Futures 2 ประเภท ได้แก่ 50 Baht Gold Futures เปิดซื้อขาย เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2552 และ 10 Baht Gold Futures เปิดซื้อขาย เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2553
ข้อควรระวังของ Gold Futures
Gold Futures ใช้เงินทุนน้อย เนื่องจากไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินทั้งจำนวนในการซื้อขาย ลงทุนวางเงินประกัน 1 ใน 10 ของมูลค่าสัญญา ดังนั้น เมื่อผู้ลงทุนได้กำไรจะได้อัตราส่วนที่สูง เมื่อเทียบกับเงินลงทุน ในขณะเดียวกันหากขาดทุนก็จะเป็นอัตราส่วนที่สูงเช่นเดียวกัน จึงอาจไม่เหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ
การเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ และอัตราแลกเปลี่ยนก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้ลงทุนควรคำนึงในการซื้อขาย โดยปกติแล้วราคาทองคำจะเคลื่อนไหวสวนทางกับอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้ลงทุนควรติดตามในการซื้อขาย
นอกจากนี้ Gold Futures ยังมีอายุจำกัด ซึ่งแตกต่างจากหุ้นและทองคำจริงที่ไม่มีวันหมดอายุ หากผู้ลงทุนถือ Gold Futures ไปจนถึงวันครบอายุสัญญา ก็จะมีการปิดสถานะของสัญญาณให้ผู้ลงทุนอัตโนมัติ โดยผู้ลงทุนจะได้กำไรขาดทุนจากส่วนต่างของราคาที่ซื้อขายตอนต้น และราคา ณ วันที่สัญญาหมดอายุ ผู้ลงทุนจึงควรรู้จักกับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ก่อนตัดสินใจลงทุน และควรติดตามผลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
- กองทุนทองคำ
“กองทุนรวมทองคำ” เป็นอีกทางเลือกในการลงทุนทองคำ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงจำนวนเงินขั้นต่ำสำหรับการลงทุน และรูปแบบในการลงทุนที่มีให้เลือกหลากหลาย
กองทุนรวมทองคำ หรือ Gold Fund เป็นการลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในทองคำ การเคลื่อนไหวของมูลค่าหน่วยลงทุนจะเป็นไปตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลก เปรียบเสมือนลงทุนในทองคำแท่งทางอ้อมผ่านกองทุนหลักในต่างประเทศ ซึ่งจะนำเงินไปลงทุนในทองคำแท่ง 99.99% หรือ 99.50% อีกทอดหนึ่ง มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนรวมจึงไม่ได้ขึ้นลงตามราคาทองคำในประเทศ แต่จะอิงกับราคาทองคำโลก
การที่กองทุนนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ จึงมีความเสี่ยงในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนมาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ กองทุนที่เน้นการลงทุนกองทุนเพียงอย่างเดียวมีความเสี่ยงสูงมาก ส่วนใหญ่อยู่ในระดับความเสี่ยงที่ 8 ซึ่งไม่เหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ
กล่าวโดยสรุป แม้ทองคำจะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในอดีต แต่ปัจจุบันการลงทุนในทองคำมีความผันผวนสูง จึงมีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอยู่ไม่น้อย ดังนั้นจึงควรความเข้าใจอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุน กำลังทรัพย์ของตัวเองได้อย่างเหมาะสม
- ประโยชน์จากการลงทุนทองคำ
- โอกาสสร้างผลตอบแทนจากการที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำอาจจะมีความผันผวน แต่เนื่องจากทองคำเป็นทรัพยากรที่จำกัด ทำให้ทองคำมีโอกาสที่จะมีราคาสูงขึ้นได้ในระยะยาว
- ใช้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อได้ เนื่องจากในยามที่อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาทองคำก็มักจะขยับขึ้นด้วยและหลายๆ ครั้งที่ราคาทองคำนั้นเพิ่มขึ้นสูงกว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ทำให้ผู้บริโภคที่ถือครองทองคำอยู่สามารถรักษาอำนาจการซื้อไว้ได้
- การสะสมทองนั้นเป็นการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำมักจะไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับการลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ หรือสินทรัพย์เพื่อการลงทุนอื่นๆ ดังนั้นการมีทองคำเป็นสินทรัพย์ส่วนหนึ่งจึงช่วยให้อุ่นใจได้มากขึ้น
- ข้อควรระวังในการลงทุนทองคำ
การลงทุนในทองคำแท่งนั้น มีเรื่องที่นักลงทุนต้องคำนึงถึงหลายประการก่อนตัดสินใจลงทุน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาทองคำที่มีความผันผวน หรือเรื่องของการเก็บรักษา โดยเฉพาะทองคำแท่งหรือรูปพรรณที่เก็บไว้ เพราะการซื้อทองคำไม่เหมือนการซื้อหุ้นเนื่องจากเป็นการครอบครองทองคำจริงๆ ที่ไม่ได้มีการระบุกรรมสิทธิ์ จึงมีความเสี่ยงจากการถูกลักขโมยและนำไปขายต่อ ขณะที่การขายก็ต้องคำนึงถึงส่วนต่างระหว่างราคาซื้อขายด้วยเช่นกัน
อ้างอิง: Intergold, WealthMagik, TFEX, SCB