รัฐคุมเข้มสกัดปาล์มเถื่อน เร่งติดมิเตอร์เช็คสต็อก
“สนธิรัตน์” เล็งประกาศมาตรการสกัดลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ สั่งกรมธุรกิจฯ ลุยมิเตอร์ถังบี100 หวังเช็คสต็อกเรียลไทม์ ภายใน 2-3 เดือน ด้านเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มทั่วประเทศ เตือนรัฐอย่าหลงกลนายทุน นำเข้าปาล์ม หวั่นกดราคาร่วง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มทั่วประเทศเข้าพบว่า เกษตรกรได้มาขอบคุณที่รัฐบาลช่วยดูแลราคาปาล์มจนทะลุ 7 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) พร้อมเตือนให้ระมัดระวังการนำเข้าปาล์มที่อาจนำไปสู่ปัญหาราคาตกต่ำในอนาคต โดยกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า นโยบายส่งเสริมดีเซล บี10 ให้เป็นน้ำมันเกรดมาตรฐานตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 จะเป็นกลไกสำคัญที่บริหารจัดการสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ(CPO) ทั่วประเทศให้เกิดความสมดุล และยกระดับราคาให้มีเสถียรภาพเป็นที่พึงพอใจของผู้ค้าและพี่น้องเกษตรกร
โดยในส่วนของการป้องกันปัญหาลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบนั้น ทางกระทรวงพาณิชย์ เตรียมใช้งบประมาณประจำปี 2563 ที่เพิ่งผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร สำหรับนำไปติดตั้งมิเตอร์ถังเก็บ CPO ที่โรงสกัด เพื่อตรวจสอบสต็อกในส่วนของน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภค
ขณะที่ กระทรวงพลังงาน เตรียมใช้งบประมาณพิศษเพื่อนำไปติดตั้งมิเตอร์ที่ถังเก็บสต็อกน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100% (บี100) สำหรับนำไปผสมเป็นน้ำมันดีเซล บี10 โดยได้สั่งการให้กรมธุรกิจพลังงาน เป็นผู้ดำเนินการ คาดว่าจะใช้เวลาภายใน 2-3 เดือนนี้ ซึ่งจะช่วยให้ตรวจสอบสต็อกได้แม่นยำและเรียลไทม์ รวมถึงในสัปดาห์หน้า กระทรวงพลังงานเตรียมประกาศมาตรการสกัดปัญหาลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ(CPO)ทั้งระบบ เพื่อดูแลสต็อก บี100
ส่วนมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาปาล์มนั้น กระทรวงพลังงาน ได้ประสานให้โรงกลั่นน้ำมันต่างๆ มีการประกาศราคาซื้อขาย บี100 ล่วงหน้า ซึ่งจะทำให้เกิดความชัดเจนในส่วนของดีมานด์และซัพพลายน้ำมันปาล์ม เพื่อชี้นำราคาตลาด และส่งผลไปถึงราคาผลปาล์มให้สูงขึ้น จากปัจจุบันที่ราคาปาล์ม จะมีการซื้อขายเป็นรายวัน ทำให้กลไกราคาขึ้นอยู่กับพ่อค้าคนกลาง โดยมอบหมายให้ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ไปหารือกับโรงกลั่น เพื่อจัดทำตลาดซื้อขายล่วงหน้าต่อไป
“บี100 จะขาดไม่ได้ เพราะโรงสกัดจะต้องมีสต็อก บี100 เพื่อทำเป็นดีเซล บี10 และตอนนี้โรงสกัดมีความต้องการใช้ บี100 จึงมีการสต็อกล่วงหน้า จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาปาล์มสูงขึ้น ซึ่งผมมีความตั้งใจว่าปีนี้ ทั้งปีจะดูแลราคาปาล์มให้มีเสถียรภาพ”
นายชโยดม สุวรรณวัฒนะ ประธานชมรมคนปลูกปาล์มน้ำมัน จ.กระบี่ กล่าวว่า เกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม ได้มาเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลที่มีนโยบายดูแลเกษตรกร ผ่านนโยบายส่งเสริมใช้ดีเซล บี10 เป็นน้ำมันเกรดมาตรฐาน จนส่งผลให้ราคาผลปาล์มสูงขึ้นไปอยู่ที่กว่า 7 บาทต่อกิโลกรัม จากช่วงหลายปีที่ผ่านมาตกต่ำอยู่ที่กว่า 2 บาทต่อกิโลกรัม เปรียบเสมือนพระเอกขี่ม้าขาว มาช่วยเกษตรกร
ขณะเดียวกันต้องการมาส่งสัญญาณให้กระทรวงพลังงาน อย่าหลงกลนายทุนที่มีความพยายามปั่นราคาปาล์ม ด้วยการทำให้รู้สึกว่าปาล์มจะขาดแคลน เพื่อนำไปสู่การนำเข้าปาล์ม เพราะจะซ้ำรอยปัญหาในปี 2558 ที่ช่วงนั้นเปิดให้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ราว 5 หมื่นตัน และส่งผลให้ราคาลดลงทันทีจากระดับกว่า 6 บาทต่อกิโลกรัม ลงไปเหลือประมาณ 2-3 บาทต่อกิโลกรัม และมีผลพวงทำให้ราคาตกต่ำหลายปี
ดังนั้น ได้แนะนำให้ภาครัฐ อย่าเปิดให้มีการนำเข้าCPO พร้อมทั้งควรมีมาตรการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้า CPO โดยเฉพาะทางเรือ และควรเร่งติดตั้งมิเตอร์วัดปริมาณ CPO ที่โรงสกัดน้ำมันปาล์มโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ราคาผลปาล์มที่ปรับสูงขึ้นเกิน 7 บาทต่อกิโลกรัม เชื่อว่าจะเป็นสถานการณ์ระยะสั้นเท่านั้น เพราะในช่วงเดือน ก.พ.นี้ ผลผลิตปาล์มฤดูกาลใหม่จะเริ่มทยอยออกสู่ตลาด และจะมีปริมาณสูงมาก หรือ พีก ในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้ โดยเฉพาะเดือนมี.ค.นี้ คาดว่าจะมีผลปาล์มดิบออกมาถึง 1.2 ล้านกิโลกรัม จึงเชื่อมั่นว่า ปาล์มจะไม่ขาดแคลนแน่นอน ขณะที่ สต็อก CPO ปัจจุบัน ได้รับรายงานจากกกระทรวงพาณิชย์ มีปริมาณ อยู่ที่ 3.1 แสนตัน