ปรับโครงสร้างเหตุศธ.ถูกตัดงบปี'63
ปลัดศธ. เผยเหตุศธ.ถูกตัดงบปี 2563 ยันไม่ได้เป็นปัญหา ชี้ชัดปรับโครงสร้างศธ.เสร็จสามารถตั้งงบใหม่ได้ ในปีงบประมาณ 2564
ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น ซึ่งการพิจารณาดังกล่าวในส่วนของงบประมาณกระทรวงศึกษาธิการได้ถูกตัดไปจำนวน 900 ล้านบาท โดยงบที่ถูกตัดไปเป็นงบลงทุนด้านก่อสร้างอาคารสำนักงานศึกษาธิการภาค (ศธภ.)
นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)เปิดเผยว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีความเห็นว่า ศธ.กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างศธ.ในภูมิภาค ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปว่าการปรับปรุงโครงสร้างนี้จะออกมาในทิศทางใด
ดังนั้น จึงต้องมีการตัดงบประมาณในส่วนดังกล่าวออกไปก่อน เนื่องจากเราปรับโครงสร้างศธ.ในงบประมาณปี 63 แต่การปรับโครงสร้างยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ โดยศธ.คิดว่าการที่งบถูกตัดไปไม่ได้เป็นปัญหาหรือส่งผลกระทบแต่อย่างใด เพราะเป็นการใช้งบประมาณปีต่อไป ทั้งนี้หากการปรับโครงสร้างศธ.ได้ข้อยุติที่ชัดเจนก็จะสามารถตั้งบใหม่ได้ในปีงบประมาณ 2564 ได้
“ขณะนี้เรายังไม่ได้ข้อสรุปจากคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างศธ.ที่มีนายวราวิช กำภู ที่ปรึกษารมว.ศธ.เป็นประธาน จึงยังตอบไม่ได้ว่าการโครงสร้างใหม่ของศธ.จะออกมาเช่นไร แต่คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้แน่นอน อย่างไรก็ตามในส่วนการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 นั้นจะเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีหรือไอซีทีตั้งแต่ครู นักเรียน ผู้บริหาร และสถานศึกษา” ปลัด ศธ.กล่าว
ส่วนที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏรพูดถึงประเด็นให้เลิกจ้างครูที่เกษียณอายุราชการไปแล้วแต่อยากให้ศธ.เปิดโอกาสครูจบใหม่ที่ยังไม่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งมากกว่านั้น เรื่องนี้หากมองให้รอบด้านผู้เรียนจะได้ประโยชน์จากทั้งสองฝ่าย เพราะเด็กจะได้เรียนกับครูที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน และนำประสบการณ์เหล่านั้นมาต่อยอดความรู้ให้แก่ศิษย์
ส่วนครูเกษียณยังมีประโยชน์แม้อายุ 60 ปีแล้วแต่ยังไม่แก่ยังสามารถทำงานต่อได้ ส่วนครูรุ่นใหม่เป็นครูเก่งที่มีความรู้ในศตวรรษที่ 21 ก็สามารถเข้ามาพัฒนาเด็กยุคใหม่ได้ ซึ่งมองว่าต้องมีความบาลานซ์ร่วมกัน