รมว.ศธ.ชี้ชัดโครงสร้างยังไม่ได้ข้อสรุป อย่ากังวลผลกระทบ

รมว.ศธ.ชี้ชัดโครงสร้างยังไม่ได้ข้อสรุป อย่ากังวลผลกระทบ

รมว.ศธ.ฝากทุกฝ่ายอย่ากังวลขอให้รอข้อสรุปปรับโครงสร้างศธ.อย่ากังวลผลกระทบ เบื้องต้นไม่เห็นจะมีฝ่ายไหนได้รับผลกระทบ แต่กลับเพิ่มประโยชน์และคุณภาพให้แก่การศึกษาไทย หวังไม่ใช่การเมืองภายใน หากไม่พอใจขอให้มาคุย

จากกลุ่มข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ยื่นหนังสือเรื่องคัดค้านไม่ยุบ ไม่ย้าย ไม่โอนกลุ่มศึกษานิเทศก์และกลุ่มตรวจสอบภายในของเขตพื้นที่ไปรวมกับศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานปลัด ศธ.ตามการปรับโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2563  ที่ผ่านมา

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่ากรณีที่เกิดขึ้นได้พูดไปหลายครั้งแล้วว่าการปรับโครงสร้างศธ.ยังไม่ได้ข้อยุติ และข้อเสนอดังกล่าว ก็ยังไม่เห็นข้อมูล เป็นเพียงการหารือของคณะกรรมการปรับโครงสร้างศธ.ที่มีนายวราวิช กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษา รมว.ศธ.เป็นประธานเท่านั้น  จึงยังไม่เห็นรายละเอียดของการปรับโครงสร้าง ซึ่งเท่าที่ทราบในวันที่ 24 ม.ค. 2563 นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการปรับโครงสร้างศธ.อีกครั้ง

 

รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า ยินดีและไม่มีปัญหาอะไรหากต้องการมายื่นข้อเสนอหรือร้องเรียนในประเด็นนี้ แต่การมาร้องเรียนเรื่องการไม่ยุบ ไม่โอน ไม่ย้ายกลุ่มงานศึกษานิเทศก์ของสพท.ไปอยู่สังกัดสำนักงานปลัดศธ.ยังให้คำตอบอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่มีข้อเสนอหรือข้อยุติใดๆทั้งสิ้น ขอยืนยันเช่นเดิมว่าการปรับเปลี่ยนอะไรก็ตาม ศธ.ยึดประโยชน์ของผู้เรียนเป็นที่ตั้ง และการบริหารจัดการของศธ.ให้ไม่เกิดความซ้ำซ้อน

"ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่กังวลว่าจะเกิดผลกระทบกับตัวเอง ขอให้รอข้อสรุปของคณะกรรมการปรับโครงสร้างศธ.ก่อนว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร แต่เบื้องต้นที่ผมรับทราบข้อมูลนี้มาเห็นว่า ไม่เห็นจะมีฝ่ายไหนได้รับผลกระทบ แต่กลับเพิ่มประโยชน์และคุณภาพให้แก่การศึกษาไทย  ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ ผมมั่นใจว่าเราทำงานเพื่อพัฒนาและปฎิรูปการศึกษาไทยจึงต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงบ้าง และทุกการเปลี่ยนแปลงเราคำนึงถึงผลกระทบกับทุกคน โดยเราไม่ทำให้คนของเรามีปัญหาที่ปฏิบัติไม่ได้อย่างแน่นอน” รมว.ศธ.กล่าว

นายณัฏฐพล กล่าวว่า สำหรับคำสั่งออกจากสำนักงานปลัด ศธ.ในการตัดโอนตำแหน่งของงานศึกษานิเทศก์และตรวจสอบภายในของสพท.ให้มาอยู่ภายใต้สำนักงานปลัดศธ.นั้น เรื่องนี้ยังไม่รับทราบ แต่ประเด็นที่รู้ก็คือ ศึกษานิเทศก์คิดว่าหากตัดโอนตำแหน่งไปอยู่สังกัดหน่วยงานไหนก็แล้วแต่จะต้องย้ายที่อยู่อาศัย ไม่สามารถปฎิบัติงานตามเดิมได้

ประเด็นเหล่านี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะย้ำเสมอว่าการทำงานการศึกษาสามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้ เพื่อให้สะดวกขึ้น อีกทั้งหากข้อสรุปมีการตัดโอนตำแหน่งยังมองว่า จะส่งผลดีให้แก่กลุ่มศึกษานิเทศก์ที่จะมีเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจนมากขึ้น

ดังนั้น อย่ากังวลและอย่าไปฟังคนอื่น ซึ่งไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ส่วนเรื่องนี้จะเป็นการเมืองภายในหรือไม่นั้น หวังว่าจะไม่ใช่ แต่หากไม่พอใจเรื่องใดให้มาคุยกันได้ เพราะทำงานอย่างแฟร์ๆ ไม่ใช่เสียเวลานำครูนำผู้บริหารมาเรียกร้องเป็นจำนวนมากจนทำให้ครูต้องทิ้งห้องเรียน มองว่าไม่ถูกต้องขอแค่ส่งตัวแทนมาพูดคุยความเข้าใจร่วมกันดีกว่า โดยไม่เคยไม่ฟังปัญหาของใคร

ทั้งนี้ ในวันที่ 17 ม.ค.2563 ผอ.สพท. ครู และบุคลากรทางการศึกษา ประมาณ 3,000 คน จะแต่งชุดดำมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ. และนายวราวิช กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างศธ.   พร้อมทั้งจะมีการส่งแบบสำรวจเพื่อขอรายชื่อจำนวน 1 แสนรายชื่อว่าไม่เห็นด้วยกับการโอน