ไม่มีกล้องวงจรปิด 'สรศักดิ์' เผยสอบไม่ได้ 'ไอ้โม่ง' มือกดบัตรแทน 'ฉลอง'
ไม่มีกล้องวงจรปิด “สรศักดิ์” เผยสอบไม่ได้ “ไอ้โม่ง” มือกดบัตรแทน “ฉลอง” ผลสรุปกก. พบการออกเสียงไม่ชอบจริง เสนอแนวทางให้ส.ส.เข้าชื่อยื่นร้องศาลรธน. ให้ตรวจสอบความชอบของร่างกม.งบฯ แจ้ง “ชวน” แล้ว จ่อหารือที่ประชุมสภาฯ พรุ่งนี้
เมื่อวันที่ 21 ม.ค.63 นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร เปิดเผยผลหารือกับคณะทำงานฝ่ายกฎหมายเพื่อตรวจสอบการใช้สิทธิกดบัตรแสดงตนและออกเสียงลงคะแนนแทนนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วาระสองและวาระสาม ว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่นายฉลองลงมติ แต่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมนั้น จากการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ชวเลข พบว่าานายฉลองลงมติจริงตั้งแต่มาตรา 31 - 55 ส่วนการตรวจสอบกรณีการเสียบบัตรลงคะแนนนั้น ได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่เก็บรักษาบัตรให้ข้อมูล พบว่า บัตรประจำตัวของนายฉลอง เบิกไปใช้จริง ตั้งแต่วันที่ 8 - 11 มกราคม โดยไม่พบการส่งบัตรคืนเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้พบด้วยว่ามีการเสียบบัตรทิ้งไว้ที่เครื่องออกเสียง วันที่ 11 มกราคม
นายสรศักดิ์ กล่าวด้วยว่าสำหรับการตรวจสอบว่าบุคคลใดออกเสียงแทนนายฉลองนั้น จากการเรียกเจ้าาหน้าที่ฝ่ายเทคนิคตรวจสอบ ไม่สามารถระบุได้ว่าตำแหน่งที่เสียบบัตรลงคะแนนนั้นอยู่จุดไหน และไม่สามารถจับภาพของบุคคลได้ ทั้งนี้คณะกรรมการที่หารือร่วมกันมีมติร่วมกันว่าข้อกล่าวหาของนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ร้องต่อสื่อมวลชนนั้น เป็นจริง ทำให้ผลลงมติตั้งแต่มาตรา 31-55 และข้อสังเกต ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ส่วนกระบวนการที่ทำให้ถูกต้องคือ ให้ส.ส. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสมาชิกรัฐสภา เสนอเรื่องต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เพื่อยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยความาชอบของร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ทั้งนี้ตนรายงานผลการตรวจสอบไปยังนายชวน แล้ว และทราบว่าจะนำเข้าสู่การหารือของที่ประชุมสภาฯในวันที่ 22 มกราคม ด้วย
"จากการตรวนสอบพบการกดบัตรออกเสียงแทนนายฉลองจริง แต่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ว่าใครคือที่กดบัตรแทน เพราะมีที่นั่งจำนวนมาก ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะเป็นผลให้ร่างกฎหมายงบประมาณตกไปนั้น เชื่อว่าไม่เป็นเช่นนั้นเพราะเป็นเพียงเสียงเดียวเท่านั้น แต่การวินิจฉัยของศาลในอนาคต คณะทำงานต้องเคารพ" นายสรศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่กดบัตรออกเสียงแทนบุคคลอื่น ได้เหมือนกับกรณีของนายนริศร ทองธิราช สมัยเป็นส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ใช้บัตรแสดงตนและออกเสียงแทนส.ส.คนอื่นในการลงมติางพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ.... ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพฤติกรรมดังกล่าวทำให้ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวเป็นโมฆะ เนื่องจากในห้องประชุมจันทรานั้นไม่มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บันทึกภาพภายในห้องประชุมไว้ ขณะที่กล้องซึ่งจับภาพของส.ส.ที่อภิปรายและบรรยากาศภายในห้องประชุมนั้น เป็นกล้องถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ที่นำมาติดตั้งและเคลื่อนย้ายออก เฉพาะช่วงมีการประชุมเท่านั้น