ศาลฎีกาแจกใบดำตัดสิทธิสมัคร 10 ปี 'ชาติชาย วรพิพัฒน์'
ศาลฎีกาคดีเลือกตั้งฟังหลักฐาน กกต.ชัดแจกใบดำ 10 ปี “ชาติชาย วรพิพัฒน์” ผู้สมัคร ปชป. ปราศรัยหาเสียงโจมตี อดีต ส.ส.คู่แข่งเข้าใจถูกซื้อตัวย้ายพรรค
เมื่อวันที่ 21 ม.ค.63 ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง ศาลอ่านพิพากษา คดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้อง ขอให้ศาลวินิจฉัย กรณีที่ กกต.มีมติ สั่งเพิกถอนสิทธิการลงรับสมัครเลือกตั้ง และสิทธิเลือกตั้ง (แจกใบดำ) นายชาติชาย วรพิพัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 138 ประกอบมาตรา 73 วรรคหนึ่ง (5) และ 159 จากเหตุที่ปราศรัยหาเสียง เมื่อวันที่ 10 มี.ค.62 บริเวณตลาดวังพง ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี มีถ้อยคำบางตอนว่า ...ส.ส.ประชาธิปัตย์คนเดิมทั้ง 3 คนได้ถูกซื้อตัวแล้วย้ายพรรคไปแล้ว..."
โดยศาล พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำผิดนั้น เป็นการหาเสียงด้วยการใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้ตนเอง จึงพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายชาติชาย ผู้ถูกกล่าวหา เป็นเวลา 10 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีดังกล่าว กกต. มีมติเมื่อวันที่ 8 ก.ค.62 เห็นว่า จากพยานหลักฐานที่รวบรวมมาฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค.62 เวลา 10.18 น. นายชาติชาย ได้ปราศรัย หาเสียงเลือกตั้งที่บริเวณตลาดวังพง ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี มีถ้อยคำบางตอนระบุว่า "...ส.ส.ประชาธิปัตย์คนเดิมทั้ง 3 คนได้ถูกซื้อตัวแล้วย้ายพรรคไปแล้ว..."
ขณะที่ ผู้ร้องเรื่องนี้ ต่อ กกต.ยืนยันว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาผู้ร้องได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.จันทบุรี เขต 2 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ย้ายมาสมัครในนามพรรคพลังประชารัฐ การปราศรัยหาเสียงดังกล่าวจึงหมายถึงผู้ร้องซึ่งอดีตเคยเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จึงเป็นการใส่ร้ายและทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจย้ายพรรคเพราะถูกซื้อตัว ละทิ้งอุดมการณ์เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน อันเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จ จูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิดในคะแนนนิยม และจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้กับนายชาติชาย