เปิดใจพ่อเหยื่อคดีชิงทอง ไม่อโหสิกรรม ยิงคนตายยังไปเที่ยวงานวันเด็ก
พ่อเหยื่อคดีชิงทอง โล่งใจตำรวจจับคนร้ายได้ ลั่นไม่อโหสิกรรม โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ยิงคนตายแล้วยังไม่เที่ยวงานวันเด็ก จวกสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน ไม่ควรลดโทษ ต้องประหารชีวิตสถานเดียว
ร.อ.สุรกิต ทองทิพย์ ทายาทของ น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ (พนักงานร้านทองออโรร่า) กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายก่อเหตุชิงทองที่ร้านทองออโรร่า และยิงคนตาย 3 ศพที่ห้างโรบินสันลพบุรี ว่า ขอรอการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ก่อน จึงจะปักใจเชื่อว่าเป็นคนร้ายตัวจริงไม่ใช่แพะ เบื้องต้นเท่าที่ดูใบหน้าและรูปร่าง พบว่ามีความใกล้เคียงกับคลิปภาพในวันเกิดเหตุ ยอมรับว่าหลังจากทราบข่าวรู้สึกโล่งใจ รวมถึงดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ ทั้งนี้หลังมีการเผยแพร่ข่าวจับกุมคนร้ายออกไป ญาติพี่น้อง รวมถึงเพื่อนร่วมงานของบุตรสาว ได้โทรศัพท์มาแสดงความยินดีและให้กำลังใจ
"อยากฝากถึงคนร้าย ว่าทำไมถึนโหดร้ายทำกับคนที่ไม่มีทางสู้ และไม่คิดต่อสู้ ถ้าแค่ชักปืนขึ้นมาเฉยๆเขาก็หมอบกันหมดแล้ว แต่นี้ไม่พูดจายิงอย่างเดียว คนไหนขวางหน้ายิงหมด มันไม่ใช่นิสัยมนุษย์ที่อยู่ร่วมโลกกัน มันคือซาตานกลับชาติมาเกิด ทำเกินกว่าเหตุ ผมไม่ขออโหสิกรรมให้เพราะทำเกินไป"ร.อ.สุรกิตกล่าว
ร.อ.สุรกิต กล่าวอีกว่า หลังผ่านเหตุการณ์ความสูญเสียมากว่า 10 วันก็คิดเพียงว่าถึงอย่างไรลูกสาวก็ตายไปแล้ว คนที่ยังอยู่ก็ต้องสู้กันต่อไป เลี้ยงหลานให้เจริญเติบโต ได้รับการศึกษาที่ดีและเป็นอนาคตของชาติต่อไป ซึ่งต้องขอขอบคุณผอ.โรงเรียนใจดี ที่ให้หลานเข้าเรียนฟรีที่ให้เรียนถึงชั้นสูงสุด สำหรับหลานเชื่อว่าเขารู้ว่าแม่ตายแล้ว แต่ก่อนนอนก็ยังถามหาแม่ ผมก็ต้องหลอกว่าแม่มานอนด้วยไม่ได้เพราะป่วย "ร.อ.สุรกิตกล่าว
ด้านนายวัลลภ นิ่มมา บิดาของ นายธีรฉัตร นิ่มมา รปภ.ห้างโรบินสันลพบุรี ผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ชิงทอง กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนจริงหรือไม่ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและผบ.ตร.ที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ เป็นถึงผอ.โรงเรียนแต่กลับมาก่อเหตุ ถือว่าจิตใจโหดร้าย และโหดเหี้ยมมากๆ หากพบหน้าก็อยากถามว่า ทำไมเป็นคนโหดร้ายเช่นนี้ทั้งๆที่มีการศึกษาดี หรือการศึกษาไม่ได้ช่วยยกระดับจิตใจให้ดีขึ้น เป็นถึงครูบาอาจารย์ ควรจะมีวุฒิภาวะที่ดีกว่านี้ จากพฤติการณ์จะเห็นว่าเขาเป็นคนนิ่ง เยือกเย็น จิตใจโหดพอที่จะทำสิ่งที่ผิด
“ถ้าตอนนี้ลูกชายรับรู้ได้ อยากบอกว่า ตำรวจจับคนที่ฆ่าลูกได้แล้ว เขาฆ่าลูกโดยที่ลูกยังไม่ได้สั่งเสียอะไรถึงพ่อแม่เลยสักคำ สิ่งที่อยากฝากกถึงตำรวจและกระบวนการยุติธรรม คือ ควรตัดสินประหารชีวิตสถานเดียว และไม่ควรลดโทษให้แม้ผู้ต้องหาจะรับสารภาพ เพราะสิ่งที่เขาทำ ส่งผลให้ครอบครัวแต่ละครอบครัวได้รับความสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่ การที่เขารับสารภาพเพราะว่าจำนนต่อหลักฐานและถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ จึงขอให้มีการแก้กฎหมายเพื่อให้ลงโทษประหารชีวิตเพราะถ้าติดคุกไม่น่าจะเกิน 15 ปี แล้วก็จะกลับมาก่อเหตุซ้ำ สร้างความหวาดระแวงและทำให้คนหวาดกลัวอีก”นายวัลลภกล่าว
นายวัลลภ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากบอกว่า ทุกชีวิตมีค่า มีความหมาย ทุกคนมีค่าสำหรับทุกครอบครัว เขาทำด้วยความโหดเหี้ยมโหดร้าย ไม่สมควรที่จะติดคุกเพียงไม่กี่ปี การกระทำของเขาที่ไปเที่ยวงานวันเด็กและไปใช้ชีวิตแบบปกติ คนตายก็มีลูก 2 คน เขาก็อยากจะพาลูกไปเที่ยงวานวันเด็กเหมือนกัน แต่ไม่มีโอกาส คนร้ายเขาเป็นครูแต่จิตใจกลับโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ผมไม่ให้อโหสิกรรมและไม่ให้อภัยกับคนประเภทนี้ ต้องประหารอย่างเดียว การศึกษาไม่ได้ช่วยยกระดับจิตใจหรือช่วยอะไรเลยสำหรับคนคนนี้