'สมคิด' สั่ง 'กรุงไทย-ออมสิน' แก้หนี้ข้าราชการ
“สมคิด” ระดมแก้หนี้ข้าราชการ สั่ง “แบงก์กรุงไทย” ผนึก “ออมสิน” ศึกษาแนวทางแก้ไขโดยเร็ว ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ย หรือคิดดอกเบี้ยแบบผ่อนปรน ชี้เป็นนโยบายที่นายกฯสั่งการไว้นานแล้ว ด้าน “ผยง” ขานรับ เตรียมหารือกับแบงก์รัฐอื่นหาทางช่วย
รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ร่วมกับ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางเข้าไปตรวจเยี่ยม พร้อมมอบนโยบายการทำงานแก่ผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)(KTB) วานนี้ (22 ม.ค.)
นายสมคิด กล่าวว่า ขอให้ธนาคารกรุงไทยร่วมกับธนาคารของรัฐ โดยเฉพาะธนาคารออมสินช่วยลดภาระหนี้สินของข้าราชการ โดยเข้าไปช่วยปรับโครงสร้างหนี้ และลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งปัญหาหนี้สินข้าราชการนี้ เป็นนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ช่วยดำเนินการไว้นานแล้ว เพราะภาระหนี้สินข้าราชการนั้น ถือเป็นภาระหนักและมีระยะเวลาการชำระหนี้นาน ดังนั้น ทั้งสองหน่วยงานดังกล่าวจะต้องเร่งศึกษาแนวทางและแก้ไขโดยเร็ว
“หนี้ข้าราชการ เป็นหนี้ค่อนข้างระยะยาว ก็ได้ฝากไว้ และเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีฝากไว้นานแล้วว่า ภาระค่อนข้างหนักจะให้อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนได้หรือไม่ ส่วนใหญ่ข้าราชการเป็นลูกค้าของกรุงไทยและธนาคารออมสินอยู่แล้ว ก็จะมีการศึกษาร่วมกัน เรื่องนี้ควรต้องเห็นโดยเร็ว”
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการให้ความช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ในช่วงเศรษฐกิจที่ตึงตัว หากดำเนินการได้นอกจากจะได้ประโยชน์กับทางผู้ประกอบการเอสเอ็มอีแล้ว ยังจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจไทยด้วย
ขณะเดียวกันยังขอให้ธนาคารกรุงไทยช่วยเป็นเสาหลักที่จะสะท้อนข้อมูลว่า อะไรเป็นอะไร เพราะเป็นแบงก์ใหญ่อันดับหนึ่งประเทศไทย ฉะนั้น เสียงของเรามีความหมายว่า ความเป็นจริงประเทศไทยเป็นอย่างไร ถ้าแบงก์อื่นขึ้นดอกเบี้ยทุกแบงก์ แต่เราลดแบงก์อื่นก็จะลดลงมา
“นอกจากเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ข้าราชการแล้ว ยังอยากให้กรุงไทยเข้าไปช่วยดูแลเอสเอ็มอี เรายังมองว่ากรุงไทยจะเป็นเสาหลักให้คนไทยเข้าถึงดิจิทัลได้ดีขึ้นด้วย โดยภาครัฐมีแนวทางที่จะให้ทุกหน่วยงานเชื่อมโยงกัน ซึ่งที่ผ่านมาเราพยายามหาแนวทางมาโดยตลอด แต่เมื่อมาเห็นของกรุงไทยแล้ว เราเชื่อว่าจะใช้เครื่องมือของกรุงไทยดำเนินการได้ โดยจะยืมกรุงไทยเป็นตัวกลางดำเนินการ และหากเชื่อมโยงกันได้จะช่วยลดต้นทุนได้มาก”
ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารจะหารือร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้ข้าราชการอย่างเร่งด่วน ส่วนเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกค้านั้น พร้อมนำไปพิจารณา แต่ปัจจุบันเรื่องอัตราดอกเบี้ยทั้งMLRและMRRธนาคารมีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ช่วยเหลือเอสเอ็มอีอยู่แล้ว
ส่วนการปล่อยสินเชื่อในปีนี้ยอมรับว่า จะเติบโตแค่3-5%ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยในปีนี้ ธนาคารกรุงไทยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวยรวมในประเทศ (จีดีพี) จะเติบโตได้2.8%เช่นเดียวกับสำนักอื่นๆที่คาดว่าจีดีพีจะเติบโต2.7-2.8%โดยการขยายตัวสินเชื่อจะมาจากกลุ่มในประเทศ เช่น การค้าปลีก กลุ่มค้าขายออนไลน์ เกษตรแปรรูป กลุ่มสุขภาพ และกลุ่มภาคการผลิตในรูปแบบซัพพลายเชนเป็นต้น ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)คาดว่าจะใกล้เคียงปีก่อน ขณะที่กลุ่มการลงทุนภาคเอกชนยังคงชะลอตัว