สั่งสอบสวนเหตุผู้ต้องขังฮังการีดับ คาสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

จากกรณี Mr.Balogh Laszlo ผู้ต้องขังชาวฮังการี วัย 60 ปี ซึ่งถูกตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุม เมื่อวันที่ 25 ม.ค.2563 จากความผิดฐาน เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด แต่กลับมาเสียชีวิตภายในห้องขังของโรงพักเมื่อช่วงเช้าวันนี้(26 มกราคม 2563) ก่อนดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศตามขั้นตอนของกฎหมาย

พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ( ตร.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้รับรายงานจาก สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า หลังการเสียชีวิตของผู้ต้องขัง ทางพนักงานสอบสวน พร้อมด้วย แพทย์นิติเวช , พนักงานอัยการ , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพ ทำบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ ทำแผนที่เกิดเหตุพอสังเขป และ รายงานให้สถานทูตเอกอัครราช ฮังการี (ประจำประเทศไทย) รับทราบ พร้อมส่งศพไปชันสูตรพลิกศพ หาสาเหตุการตายโดยละเอียดอีกครั้ง

การสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ตายป่วยมีโรคประจำตัว(เบาหวาน) ซึ่งผลการชันสูตรเบื้องต้น แพทย์ลงความเห็นว่า ไม่พบบาดแผลภายนอก หรือรอยฟกช้ำ สันนิษฐานว่า เสียชีวิตเนื่องจากมีโรคประจำตัว หรือโรคชรา

พันตำรวจเอก กฤษณะ กล่าวว่า คดีนี้ พนักงานสอบสวนจะทำสำนวนชันสูตรพลิกศพผู้ต้องหา กรณีที่ตายในระหว่างความควบคุมของเจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ โดยพนักงานสอบสวนจะร่วมกับพนักงานอัยการ พนักงานฝ่ายปกครอง ในท้องที่เป็นผู้ร่วมชันสูตรพลิกศพ ตามระเบียบและกฎหมายที่กำหนดแล้ว ภายใน 90 วัน

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรมแก่ญาติของผู้เสียชีวิต และสามารถตอบข้อสงสัยของสังคมได้ โดยพันตำรวจเอก ณัฐพล โกมินทรชาติ ผู้กำกับการ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ในกรณีดังกล่าว หากพบข้อบกพร่อง หรือความประมาทเลินเล่อของผู้ใด จะดำเนินการทั้งทางวินัย และทางอาญาอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้กำชับให้พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานในการทำสำนวนชันสูตรพลิกศพ ด้วยความรอบคอบ สอบสวนให้สิ้นกระแสความในทุกประเด็น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โปร่งใส และสามารถตอบคำถามสังคมได้