“ชัยวัฒน์” รอฟังศาล “ปล่อยขาด” หรือไม่ วันนี้

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี (สบอ.9) อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมพวก รวม 4 คน เดินทางมายังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพร้อมด้วย นายพรชัย พฤกษ์พิชัยเลิศ ทนายความ เพื่อรายงานตัวในวันครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย คดีการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ผู้นำชุมชนชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย จ.เพชรบุรี เมื่อปี 2557 และกำลังรอว่าทางอัยการจะดำเนินการในทางใดต่อไปจนถึงวลาประมาณ 4โมงเย็นวันนี้

มีความเป็นไปได้ 3 ทางในการพิจารณาดำเนินการด้านคดีหลังการรายงานตัวครั้งสุดท้ายของนายชัยวัฒน์และพวก คือ ทางอัยการสั่งฟ้องในข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในกรณีที่มีการจับกุมตัวนายบิลลี่เอาไว้หลังพบมีครอบครองน้ำผึ้งจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ได้นำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน แต่อ้างว่าความผิดเล็กน้อย จึงใช้ดุลพินิจปล่อยตัวไป

หากพนักงานอัยการยังไม่สั่งฟ้องในข้อหาดังกล่าว อาจรอสำนวนความเห็นจากพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอว่า จะมีความเห็นพ้องกับพนักงานอัยการที่สั่งไม่ฟ้องนายชัยวัฒน์กับพวกรวม 7 ข้อหาหนักที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมและอำพรางศพ แต่จะฟ้องเพียงข้อหาตามมาตรา 157 เท่านั้น  หรือ จะเห็นแย้งกับพนักงานอัยการ ซึ่งในกรณีนี้ ต้องส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดมีความเห็นชี้ขาดต่อไป

ในกรณีดังกล่าว มีความเป็นไปได้ว่านายชัยวัฒน์และพวกจะได้รับการปล่อยตัวโดยพ้นอำนาจการควบคุมของศาลในวันนี้ เนื่องจากหากต้องรอสำนวนจากดีเอสไอ ต้องใช้เวลาอีกระยะในการพิจารณาของอัยการสูงสุด

เบื้องต้น มีรายงานว่า ดีเอสไอได้จัดทำความเห็นแย้งถึงพนักงานอัยการใน 6 ประเด็น รวมถึงข้อโต้แย้งด้านพยานและหลักฐานทางนิติวิทยาศาตร์การตรวจพิสูจน์ดีเอนเอไมโตรคอนเดรียที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเพียงพอที่จะใช้ระบุบุคคลที่เสียชีวิตในกรณีนี้ได้หรือไม่

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ให้สัมภาษณ์ The Reporters ในเบื้องต้นว่า พนักงานอัยการคดีสำนักงานคดีพิเศษ 1 จะยังไม่ยื่นฟ้องนายชัยวัฒน์กับพวก ในความผิดฐานตามมาตรา 157 เพราะอยู่ในระหว่างรอความเห็นจากดีเอสไอ

ในส่วนของนายชัยวัฒน์กับพวก ที่มารายงานตัวฝากขังกับศาล ก็ต้อง “ปล่อยขาด”  พ้นจากอำนาจการควบคุมของศาลไปก่อนตามขั้นตอนกฎหมาย แต่หากท้ายที่สุดแล้ว จะต้องมีการมายื่นฟ้องนายชัยวัฒน์ในภายหลัง ก็สามารถติดตามตัวมาส่งฟ้องได้ เพราะอัยการเห็นว่า นายชัยวัฒน์เป็นข้าราชการมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง  และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี นายประยุทธกล่าว

คดีนี้ สืบเนื่องจาก “บิลลี่” พอละจี รักจงเจริญ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแม่เพรียง และผู้นำชุมชนชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย จังหวัดเพชรบุรี ได้หายตัวไปหลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานควบคุมตัว ในความผิดเกี่ยวกับการนำน้ำผึ้งป่าออกจากเขตอุทยานแห่งชาติโดยผิดกฎหมาย ในวันที่ 17 เมษายน 2557 และอ้างว่าได้ปล่อยตัวไปแล้ว ก่อนที่ดีเอสไอจะแถลงข่าวเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า เขาได้เสียชีวิตแล้ว จากการตรวจสารพันธุกรรมเทียบเคียงกับของมารดาจากชิ้นส่วนกระดูกกะโหลกศีรษะที่พบในเขื่อนแก่งกระจาน ในเขตอุทยานฯ และดำเนินคดีฆาตกรรมและอำพรางศพกับนายชัยวัฒน์และพวกในที่สุด