'ไวรัสโคโรน่า' พ่นพิษ ท่าเรือท่องเที่ยวภูเก็ตนักท่องเที่ยวหาย

บรรยากาศภายในท่าเรือวานิช ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวขนาดเล็กยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เช่น เกาหลี อินเดีย แอฟริกาใต้ เป็นต้น มาใช้บริการเพื่อเดินทางไปยังเกาะแก่งต่างๆ เช่น เกาะพีพี จ.กระบี่ เกาะไข่ จ.พังงา เป็นต้น แต่จำนวนค่อนข้างบางตา อย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับในช่วงก่อนจะเกิดปัญหาโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019

เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งมาใช้บริการท่าเทียบเรือแห่งนี้เช่นกัน หายไปทั้งหมด จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดในช่วงปกติ เฉลี่ยวันละ 800 คน ใช้เรือสปีดโบ๊ทประมาณ 28-30 ลำ แต่ปัจจุบันเหลือเฉลี่ยวันละ 150-200 คน ใช้เรือประมาณ 3-4 ลำส่งผลให้เรือจำนวนมากต้องจอดลอยลำ เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยว

นายธนะพงศ์ อาคมพัฒน์ ผู้บริหารบริษัทนำเที่ยวและจำหน่ายสินค้าสำหรับนักท่องเที่ยวภายในท่าเทียบวานิช กล่าวว่า จากสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า 2019 หากเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนจะได้รับผลกระทบ 100 % คือไม่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเลย แต่ในส่วนของตนยังทำตลาดอื่นๆ ด้วย ได้แก่ รัสเซีย อินเดียและยุโรป ซึ่งยังคงมีเข้ามา

แต่ทั้งนี้ก็คงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประคองให้ผ่านช่วงวิกฤตนี้ไปให้ได้เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด สิ่งที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาดูแลจะเป็นเรื่องของภาษีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพราะครั้งนี้ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก และผลกระทบครั้งนี้คาดว่าจะกระทบไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ดูจากตัวเลขของนักท่องเที่ยวพบว่าลดลงอย่างต่อเนื่อง และเริ่มจะกระทบกับชาติอื่นๆ ด้วย เนื่องจากมีความเป็นห่วงเรื่องของความปลอดภัยและสถานการณ์ของโรคในไทย รวมถึงมาตรการการดูแล โดยมีทั้งที่สอบถามเข้ามาและยกเลิกไปเลย เช่น อินเดีย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ภายในท่าเรือดังกล่าว ซึ่งมีร้านค้าที่เปิดขายสินค้าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วย พบว่าบางร้านได้ทำการเก็บสินค้าเพื่อปิดร้าน หลังจากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลย โดยนางสาวอภิญญา แก้วเจือ พนักงานของร้านขายสินค้าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเจ้านายว่าให้เก็บสินค้าทั้งหมด และต้องปิดร้าน

เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวทำให้พนักงานทั้งหมดต้องตกงาน เนื่องจากร้านของเราขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวทัวร์จีน 100 % ซึ่งได้มีการทำความเข้าใจกับพนักงานทุกคนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งก็เข้าใจในส่วนของนายจ้างด้วย ซึ่งโชคดีที่เขาจ่ายเงินเดือนให้ครึ่งเดือน ปกตินักท่องเที่ยวจะเยอะมาก

โดยเฉพาะช่วงตรุษจีนที่ผ่านมาบริษัทที่ทำทัวร์จีนสั่งสินค้าเพื่อขายในช่วงดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก แต่ปรากฏว่ามาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ต่างช็อคไปตามๆ กัน เพราะเกิดกะทันหันมาก จากนี้ก็ต้องอยู่ในสถานะคนตกงาน ซึ่งเท่าที่คุยกับเจ้านายบอกว่าจะเป็นอย่างนี้ไปไม่ต่ำกว่า 4 เดือน ดังนั้นเขาคงไม่สามารถแบกรับภาระทั้งหมดไว้ได้ โดยก่อนที่จะมีการบอกเลิกจ้างก็มีการมาพูดคุยกันเหมือนคนในครอบครัว และต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน