เปิดข้อมูล 'มูลค่าไอพีโอ' ตลาดหุ้นไทยทวง 'แชมป์' อาเซียน

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า คาดมีโอกาสสูงที่มูลค่าการระดมทุนของบริษัทเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ช่วงเดือนก.พ. ในตลท.จะพลิกกลับมาแซงหน้าตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย และขึ้นเป็นอันดับ1 ในอาเซียน   เนื่องจากบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เตรียมเข้าทำการซื้อขายในวันที่ 20 ก.พ.นี้ หลังจากเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียขยับขึ้นมามีมูลค่าการระดมทุนหุ้นไอพีโอเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ซึ่งมีมูลค่าการระดมทุนประมาณ 71 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ตลท.มีมูลค่าการระดมทุนเพียง 7 ล้านดอลลาร์ อยู่ลำดับที่ 3 รองจากประเทศมาเลเซียที่อยู่อันดับที่ 2 โดยมีมูลค่าการระดมทุนหุ้นไอพีโอราว 11 ล้านดอลลาร์

สำหรับภาพรวมมูลค่าการระดมทุนหุ้นไอพีโอตั้งแต่ปี 2557-ม.ค.2563 ตลาดหุ้นไทยเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน โดยมีมูลค่าการระดมทุนรวม 16,426 ล้านดอลลาร์ รองลงมาคือตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ มูลค่า 7,164 ล้านดอลลาร์,ตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย 5,652 ล้านดอลลาร์,ตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย 5,184 ล้านดอลลาร์,ตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม 3,780 ล้านดอลลาร์ และตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์ราว 2,409 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตามภายหลังจากบริษัทขนาดใหญ่เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องจะช่วยหนุนให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งในภูมิภาคอาเซียนมาร์เก็ตแคปหุ้นไทยเป็นรองแค่ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ที่มีมาร์เก็ตแคปราว 7 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่มาร์เก็ตแคปตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 5.6 แสนดอลลาร์ 

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คาดว่าหุ้นขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นปีนี้น่าจะมีมาร์เก็ตแคปโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 4.5-5 แสนล้านบาท  เช่น CRC, บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR และบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ซึ่งหากคิดเป็นสกุลเงินต่างประเทศน่าจะอยู่ราว 1.3-1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่ามาร์เก็ตแคปที่เพิ่มขึ้นจะทันกับมาร์เก็ตแคปตลาดหุ้นสิงคโปร์หรือไม่

 ทั้งนี้ยอมรับว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมีหุ้นขนาดใหญ่เดินสายเข้ามาระดมทุนเพิ่มมากขึ้น สวนทางกับตลาดหุ้นสิงคโปร์ที่อาจลดลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ตามตลาดสิงคโปร์มีจุดแข็งที่สามารถดึงบริษัทต่างชาติขนาดใหญ่เข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นได้จำนวนมาก ขณะที่ตลาดหุ้นไทยเชื่อว่าแนวโน้มบริษัทขนาดใหญ่ๆในประเทศเริ่มมีจำนวนน้อยลง