‘อาร์เจนตินา’ไม่จ่ายหนี้ไอเอ็มเอฟถ้าเศรษฐกิจไม่ฟื้น
นางคริสตินา เฟอร์นานเดซ เดอ เคิร์ชเนอร์ รองประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ประกาศเมื่อวันเสาร์(8ก.พ.) ว่า รัฐบาลจะไม่จ่ายคืนหนี้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) แม้แต่“ครึ่งเซนต์”หากว่าเศรษฐกิจของประเทศยังไม่หลุดพ้นจากภาวะถดถอย
“สิ่งแรกที่เราต้องทำคือ พลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาแข็งแกร่งจากทุกวันนี้ที่เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะถดถอย และหากเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น เราจะไม่จ่ายหนี้ที่กู้มาคืนให้ไอเอ็มเอฟแม้แต่ครึ่งเซนต์”เฟอร์นานเดซ เดอ เคิร์ชเนอร์ กล่าวในงานเปิดตัวหนังสือที่เธอเขียนชื่อ “Sinceramente” (Sincerely) ในงานสัปดาห์หนังสือ กรุงฮาวานา
ทั้งนี้ อาร์เจนตินา ต้องปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 100,000 ล้านดอลลาร์กับบรรดาผู้ปล่อยกู้ ซึ่งรวมถึงเงินกู้จากไอเอ็มเอฟจำนวน 57,000 ล้านดอลลาร์ที่ไอเอ็มเอฟขยายระยะเวลาจ่ายคืนในปี 2561 ซึ่งการทำข้อตกลงกับไอเอ็มเอฟ เป็นความหวังสำหรับอาร์เจนตินา ที่จะช่วยให้ประเทศรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ ท่ามกลางภาวะที่สกุลเงินท้องถิ่นอ่อนค่าต่ำสุด เงินเฟ้อพุ่ง และเศรษฐกิจหดตัว
นายเฮอร์แนน ลาคันซารัฐมนตรีกระทรวงคลังของอาร์เจนตินา ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อของอาร์เจนตินาในปี 2562 อยู่ที่ 55% ซึ่งสูงกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 53% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อล่าสุดในเดือนต.ค. อยู่ที่ 50.5% ส่วนอัตราความยากจนในอาร์เจนตินาขณะนี้อยู่ในระดับสูงกว่า 35%
อาร์เจนตินากำลังเผชิญกับความวุ่นวายทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง หลังจากผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมาพบว่า ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ลงคะแนนเลือกนายอัลแบร์โต เฟอร์นันเดซ เป็นประธานาธิบดีอาร์เจนตินาคนใหม่ ซึ่งทำให้ตลาดตกังวลว่าอาร์เจนตินาจะผิดนัดชำระหนี้
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวของอาร์เจนตินาลงอีก 3 ขั้นลงสู่ระดับต่ำสุดของอันดับขยะ โดยระบุว่า แผนการของรัฐบาลอาร์เจนตินาที่จะขยายเวลาไถ่ถอนตราสารหนี้นั้น ทำให้เกิดภาวะผิดนัดชำระหนี้ชั่วคราว