'หญิงหน่อย' ส่งลูกพรรคชงญัตติตั้งกมธ.ศึกษาป้องเกิดเหตุกราดยิงซ้ำ
"คุณหญิงสุดารัตน์" ส่งลูกพรรคยื่นญัตติป้องกันความรุนแรงในที่สาธารณะถอดบทเรียนเหตุการณ์จ่าคลั่ง ชวนรัฐบาลร่วมถกสร้างความมั่นใจ ปชช.-นักท่องเที่ยว ในช่วงเศรษฐกิจซบเซา
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 63 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเหตุกราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า ในฐานะที่ตนเป็นลูกหลานชาวโคราช ตนรู้สึกตกใจเพราะเมืองโคราชเราอยู่กันด้วยความสงบมาโดยตลอด อาจจะเจอความรุนแรงจากเหตุการณ์ตึกโรงแรมถล่มมาครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน จนมาเหตุการณ์นี้ซึ่งทำให้ประชาชนเสียขวัญ ตนเองก็มีญาติที่ติดอยู่ในห้าง Terminal 21 กว่าจะได้ออกมาก็ดึกดื่น เหตุการณ์นี้ไม่มีใครอยากให้เกิด เป็นความสูญเสียที่รุนแรง ตนขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวที่สูญเสียคนที่รักไป ขอให้กำลังใจให้ทุกท่านมีความเข้มแข็ง ขออำนาจพระพุทธคุณและอำนาจท้าวสุรนารีคุ้มครองให้ผู้ได้รับบาดเจ็บให้มีสุขภาพที่แข็งแรง หายบาดเจ็บ และปลอดภัย ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนที่เข้าไป เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครทุกมูลนิธิ รวมทั้งพี่น้องชาวโคราชทุกคนที่ร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือแสดงให้เห็นถึงพลังใจและความเข้มแข็งของชาวโคราช
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า สิ่งนี้จำเป็นต้องถอดบทเรียนมาป้องกันในอนาคต เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดความรุนแรงหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการปล้นร้านทอง หรือการใช้อาวุธสร้างความรุนแรงต่างๆ เราต้องถอดบทเรียนเพื่อให้มีมาตรการป้องกันและการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าจะมีชีวิตปกติสุขโดยไม่ถูกทำร้ายในที่สาธารณะอีกแล้ว รวมทั้งยังจะสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ก็ต้องยิ่งสร้างความมั่นใจให้ทุกคนกล้าที่จะออกไปจับจ่ายซื้อของ ทั้งนี้ยังมีคนที่ไม่หวังดีใช้โซเชียลในการปล่อยข่าวข่มขู่ว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นที่นั่นที่นี่ ก็ยิ่งทำให้ประชาชนขวัญเสีย
ในส่วนของพรรคเพื่อไทยและฝ่ายค้าน ตนได้พูดคุยกับประธานวิปฝ่ายค้าน และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ว่าเป็นเวลาที่รัฐบาล ฝ่ายค้าน ข้าราชการ ประชาชน จะต้องร่วมแรงร่วมใจกันในการที่จะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจากอาวุธสงครามที่รุนแรง ดังนั้นพรรคจะตั้งกระทู้ถามและเสนอญัตติตั้งกรรมาธิการเพื่อศึกษาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดการทำร้ายด้วยอาวุธร้ายแรงแบบนี้กับประชาชนในที่สาธารณะ พร้อมทั้งกำชับว่าเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะเอาไปโจมตีใคร แต่เป็นเวลาที่ต้องร่วมแรงกันหาวิธีการป้องกัน ดังนั้นรัฐสภาควรเปิดพื้นที่ให้รัฐบาลและฝ่ายค้านหารือกัน หาแนวทางดูแลความปลอดภัยในที่สาธารณะให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่า ส.ส. พรรคจะเสนอต่อประธานสภาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสัปดาห์หน้า