มติวิปฝ่ายค้าน ห้าม ส.ส.-กมธ.โควต้าฝ่ายค้าน ร่วมประชุมร่างกม.งบฯ63

เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงผลการประชุมและมติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตามที่มีการประชุมเมื่อเวลา 11.00 น. ซึ่งมีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ฐานะผู้นำฝ่ายค้านเป็นประธานการประชุม ว่า มติพรรคร่วมฝ่ายค้านจะให้ส.ส.​รวมถึงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ในสัดส่วนของพรรคฝ่ายค้าน งดการเข้าาร่วมประชุมในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 วาระ 2-3 วันที่ 13 ก.พ. แต่จะร่วมลงชื่อเพื่อให้นับเป็นองค์ประชุม

ทั้งนี้ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงรายละเอียดต่อมติด้วยว่าพรรคฝ่ายค้านจะยอมเปิดทางให้ฝั่งรัฐบาลพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 วาระสองและวาระสาม ได้โดยรวดเร็ว เพราะหากให้ส.ส.ฝ่ายค้านที่เสนอคำแปรญัตติ และกมธ.ที่สงวนความเห็นอยู่และอภิปรายเชื่อว่าจะใช้เวลาพิจารณา 2-3 วันไม่จบ ส่วนเหตุการณ์ที่พ.ร.บ.งบฯ 63 ต้องสะดุด และประชาชนวิตกต่อการใช้งบประมาณ คือ ฝ่ายรัฐบาล เพราะมีส.ส.ของพรรครัฐบาลกดบัตรแทนกัน ขณะที่ฝ่ายค้านไม่มีส่วนที่ทำให้ร่างพ.ร.บ.งบฯสะดุด แต่รัฐบาลทำเสียของด้วยตนเอง

นายสุทิน กล่าวตอบคำถามต่อกรณีที่การพิจารณาวาระสอง ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีการอภิปรายและลงมติเป็นรายมาตราหากไม่พบการอภิปรายะจะถือว่าผิดขั้นตอนรัฐธรรมนูญและฟ้องร้องหรือไม่ ว่า เหตุที่ว่านั้นยังไม่เกิด จึงไม่ทราบว่าจะดำเนินการอะไรหรือไม่ ต้องรอให้เกิดเหตุก่อน อย่างไรก็ตามมติของพรรคฝ่ายค้าานที่ไม่เข้าร่วมประชุมนั้นเพื่อต้องการเปิดทางให้ฝั่งรัฐบาลทำงานได้โดยสะดวก

ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงยืนยันว่า ตนไม่เคยเจรจากับ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามที่มีสื่อเครือเนชั่นระบุว่าเป็นตัวแทนจากฝ่ายรัฐบาลเจรจากับพรรคอนาคตใหม่ ทั้งนี้ ตนได้คุยกับฝ่ายรัฐบาล หลังจากที่มติวิปฝ่ายค้านหารือและมีมติร่วมกัน โดยได้แจ้งกับวิปรัฐบาล ถึงมติที่จะไม่เข้าร่วมประชุม ซึ่งวิปรัฐบาลรับทราบและยอมรับ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าเหตุผลที่ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่เข้าร่วมประชุม ร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 วาระ 2-3 นั้นเพราะมองว่าคำวินิจฉันของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อกรณีที่เกี่ยวข้องและระบุให้สภาฯ ลงมติวาระสองและวาระสามใหม่อีกครั้งนั้นเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต และเกินกว่ารัฐธรรมนูญ ซึ่งหากสภาฯ ยอมรับเท่ากับยอมรับในอำนาจของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ และขัดต่อหลักการถ่วงดุลของฝ่ายตุลาการและฝ่ายนิติบัญญัติ

นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า พรรคฝ่ายค้านมีมติยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา ต่อที่ประชุมสภาฯ วันนี้ ( 12 กุมภาพันธ์) เพื่อให้สภาฯ หารือต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้คำแนะนำให้สภาฯ ลงมติวาระสองและวาระของร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ใหม่ ว่าควรปฏิบัติอย่างไร