ป.ป.ส.เตือนอันตรายจากการใช้ 'สารระเหย'
ป.ป.ส.เตือนอันตรายจากการใช้ “สารระเหย” หากเสพติดเรื้อรัง อาจควบคุมสติอารมณ์ไม่ได้ และเกิดพฤติกรรมรุนแรง ชี้แม้ไม่ใช่ยาเสพติด แต่ใครใช้ผิดประเภทโทษถึงติดคุก
ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเยาวชนอายุ 18 ปี สูดดมสารระเหย กระทั่งเกิดอาการมึนเมา ควบคุมสติไม่ได้ มีอาการหลอนหวาดระแวง และใช้อาวุธทำร้ายร่างกายแม่ตนเองจนถึงแก่ความตายนั้น
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า “สารระเหย คือสารที่ได้จากขบวนการสกัดน้ำมันปิโตรเลียม มีลักษณะเป็นไอ ระเหยได้ในอากาศ พบในรูปของกาวอินทรีย์สังเคราะห์ ทินเนอร์ หรือแลกเกอร์ เป็นสารที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม งานหัตถการต่างๆ เช่น งานตกแต่งหรืองานเครื่องเรือน หรือที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวันเช่น ยาทาเล็บ สีสเปรย์ สเปรย์ฉีดผม น้ำมันรถ หมึกเติมเคมี เป็นต้น แต่มีการนำไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ โดยนำไปสูดดม และหากสูดดมเป็นระยะเวลานานจะเกิดอันตรายต่อสุขภาพอย่างรุนแรง มีผลต่อสมอง สูญเสียความทรงจำและประสาทสัมผัสบางส่วน เช่น ทางการได้ยินหรือการรับกลิ่น หรือไม่สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ กล้ามเนื้ออ่อนแรง เกิดภาวะซึมเศร้า ควบคุมตนเองไม่ได้ เดินเซ ตาพร่ามัว ในบางรายอาจชักเกร็งและหมดสติ ร่างกายมีอาการสั่น สมองสั่งการช้า และจะทำให้มีพฤติกรรมผิดปกติ จนเกิดอาการทางจิตเวช”
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า แม้สารระเหยจะไม่ใช่ยาเสพติด ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 แต่หากพบว่าผู้ใดจำหน่ายหรือขายให้กับเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือผู้ที่นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์คือ เอาไปสูดดมหรือด้วยวิธีอื่นใดเพื่อความเพลิดเพลินถือเป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ชักจูง ยุยงส่งเสริม หลอกลวงให้เด็กหรือเยาวชนที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี สูดดมสารระเหย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวย้ำอีกว่า แม้ปัจจุบันในประเทศไทยจะมีจำนวนผู้ติดสารระเหยเพียงไม่กี่พันราย แต่ด้วยผลเสียที่เกิดขึ้นต่อร่างกายของผู้สูดดมอย่างรุนแรง ทำให้ต้องเฝ้าระวังไม่ให้การแพร่ระบาดของสารระเหยขยายตัวมากขึ้น จึงขอฝากพี่น้องประชาชน หากบุคคลในครอบครัว หรือในหมู่บ้าน/ชุมชนมีพฤติการณ์สูดดมสารระเหย ต้องรีบนำเข้ารับการบำบัดรักษา หรือแจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว ทั้งนี้สามารถขอรับคำปรึกษาด้านการบำบัดรักษาได้ที่ โทร. 1165 หรือสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง”