ป.ป.ส. เผยผลปฏิบัติการร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511 ยึดยาบ้ากว่า 44 ล้านเม็ด
ป.ป.ส. แถลงผลงาน 6 ประเทศ 2 เดือน จับผู้ต้องหา 1,934 ราย ยึดยาบ้ากว่า 44 ล้านเม็ด ไอซ์กว่า 5,000 กิโลกรัม พร้อมกำหนดเป้าหมาย 33 จุด วางมาตรการเข้ม ตลอดแนวชายแดน
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เป็นประธานการประชุมหารือและติดตามผลการปฏิบัติการร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511 ภายใต้แผนปฏิบัติการร่วมแม่น้ำโขงปลอดภัย เพื่อการควบคุมยาเสพติด 6 ประเทศ ระยะ 4 ปี (2562 - 2565) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสจากหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม ณ โรงแรมเวียงอินทร์ จังหวัดเชียงราย
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “แผนปฏิบัติการร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511 ได้เริ่มดำเนินมาตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2562 ตามข้อตกลงร่วมกันของผู้แทนระดับรัฐมนตรีของทั้ง 6 ประเทศลุ่มน้ำโขง ที่จะร่วมกันเปิดปฏิบัติการ ในช่วงระยะเวลาเดียวกันเพื่อสกัดกั้นเคมีภัณฑ์/สารตั้งต้นไม่ให้เข้าไปยังแหล่งผลิตและสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้ออกจากแหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งได้ปฏิบัติการครบ 2 เดือน ประเทศสมาชิกจึงมีการหารือกัน เพื่อติดตามผล และกำหนดแนวทางการดำเนินการในช่วงต่อไป ปรากฏว่า 6 ประเทศสมาชิกลุ่มน้ำโขงร่วมกันปฏิบัติการในพื้นที่เป้าหมาย จับผู้ต้องหา 1,934 ราย ยึดยาบ้า 44,217,987 เม็ด ไอซ์ 5,872 กิโลกรัม เฮโรอีน 423 กิโลกรัม เอ็กซ์ตาซี(Ecstasy) 750,202 เม็ด และยึดกรดไฮโดรคลอริก 16,200 ลิตร ซึ่งสารเคมีดังกล่าวหากเล็ดลอดไปจะผลิตยาบ้าได้ถึง 3,500 ล้านเม็ด หรือหากนำไปผลิตไอซ์ 53.5 ตัน หรือ เฮโรอีน 53.5 ตัน รวมทั้ง ยึดโซเดียมเอท๊อกไซด์ 12.4 ตัน ซึ่งสารเคมีดังกล่าวหากเล็ดลอดไปจะผลิตยาบ้าได้ถึง 744 ล้านเม็ด หรือหากนำผลิตไอซ์ 11.1 ตัน
จากผลการดำเนินการดังกล่าว ที่ประชุมจึงได้หารือแนวทางขับเคลื่อนในระยะต่อไป โดยกำหนดห้วงเวลาปฏิบัติงานพร้อมกันของแต่ละประเทศในเดือนมีนาคม 2563 มีพื้นที่เป้าหมาย 33 จุดสำคัญซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของทั้ง 6 ประเทศ ด้วยการตั้งจุดตรวจจุดสกัดกั้นยาเสพติด การสกัดกั้นสารตั้งต้นเคมีภัณฑ์ การลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยงตามแนวชายแดน การสืบสวนปราบปรามเครือข่ายยาเสพติด และการลาดตระเวนตามลำแม่น้ำโขง รวมถึงการให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์สถานการณ์ยาเสพติดร่วมกัน การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้อง และการสืบสวนขยายผล เป็นต้น ทั้งนี้การดำเนินการข้างต้นเป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และข้อเน้นย้ำของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้ประสานงานความร่วมมือกับมิตรประเทศในการแก้ไขปัญหายาเสพติด