ภูเก็ต ตรวจเข้มนักท่องเที่ยว 400 คนเรือสำราญ 'ซีบอร์น'

​เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 63 เรือสำราญขนาดใหญ่ ชื่อ SEABOURN OVATION ได้เข้าเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดย นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ร.ท.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 นายวิวัธน์ ชิดเชิดวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์อนพัทย์ กอวนิช หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าเรือภูเก็ต และคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจเยี่ยมการตรวจคัดกรองตามมาตรการควบคุมและตั้งรับเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนชาวภูเก็ต

​โดยเรือ SEABOURN OVATION สัญชาติ BAHAMAS ขนาดเรือ 41,865 ตันกรอส มีผู้โดยสารจำนวน 495 คน และลูกเรือ 433 คน รวมทั้งหมด 928 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป และมีชาวเอเชีย 1 คน สัญชาติอินเดีย เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย ก่อนจะเข้าที่เทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ต โดยเป็นเส้นทางการเดินเรือปกติที่ได้กำหนดเส้นทางผ่านจังหวัดภูเก็ต และทำการแวะพักเป็นเวลา 10 ชั่วโมง ระหว่างเวลา 07.00-17.00 น.ของวันนี้ (13 ก.พ.) ก่อนจะเดินทางต่อไปยังประเทศสิงคโปร์ ทั้งนี้ ก่อนที่พนักงานบนเรือให้นักท่องเที่ยวลงจากเรือมีการทำความราวสะพานที่มีการจับบ่อยๆ และมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของนักท่องเที่ยวก่อนที่จะอนุญาตให้ลงจากเรือด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่มีปัญหากับการตรวจทั้งบนเรือและบนฝั่ง โดยบอกว่าเข้าใจในมาตรการที่ทางการดำเนินการ

นายภัคพงศ์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยว และเป็นไปตามมาตรการคัดกรองการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงได้จัดทีมแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต บุคลากรจากทัพเรือภาคที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาช่วยอำนวยความสะดวกในการที่จะใช้เครื่องเทอร์โมอินฟราเรด ตรวจคัดกรองผู้โยสารที่ลงมาจากเรือ เพื่อไปท่องเที่ยวภายในตัวเมืองภุเก็ตและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ

“ตามระเบียบวิธีการทางเรือปกติ มีการตรวจคัดกรองผู้โดยสารบนเรือ ก่อนที่จะอนุญาตให้ลงเรืออยู่แล้ว นอกจากนี้เรายังมีบุคลากรทางแพทย์ของด่านควบคุมโรคจังหวัดภูเก็ตประสานงานกับเจ้าหน้าที่บนเรือเบื้องต้น ซึ่งผลการตรวจสอบนักท่องเที่ยวทั้ง 495 รายไม่มีผู้ใดเป็นไข้ แต่เพื่อความมั่นใจของพี่น้องประชาชน จึงมีการตรวจอย่างเข้มข้นอีกครั้ง” นายภัคพงศ์ กล่าว

นายภัคพงศ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรปนับว่าเป็นอีกกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ แต่ละวันมีการใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 6,000 บาทต่อคน คาดว่าช่วงเวลาที่ลงแวะพักที่ภูเก็ต จะมีเงินที่สะพัดไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ขอฝากถึงพี่น้องประชาชนในการรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ซึ่งเป็นเฟคนิวส์หรือข่าวปลอมที่จะไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติและจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะกระแสข่าวที่ว่าเรือลำนี้เข้าสิงคโปร์ไม่ได้จึงมาแวะจอดที่ภูเก็ตนั้นไม่ใช่ความจริง เพราะเรือลำนี้มีแผนการเดินเรืออยู่แล้วตามกำหนดขั้นตอน ถึงเวลามาจอดเข้าท่าที่ภูเก็ต ก่อนที่จะเดินทางกลับไปประเทศสิงคโปร์ตามกำหนดการในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 และขอให้ประชาชนมีความมั่นใจอย่าวิตก กังวลเนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเรือสำราญได้มีการควบคุมและคัดกรองเชื้อไวรัสอย่างมีมาตรฐาน มีการตรวจวัดไข้ทุกวันก่อนจะลงเรือ และมีการเซ็นรับรองจากแพทย์ที่ประจำอยู่บนเรือ

นอกจากนี้ นายภัคพงศ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเดือนกุมภาพันธ์นี้จะมีเรือสำราญเข้ามาเทียบท่าในจังหวัดภูเก็ตทั้งสิ้น 17 ลำ และทางจังหวัดภูเก็ตพร้อมดำเนินการคัดกรองตามมาตรฐานของกรมอนามัยโลก และข้อสั่งการของกระทรวงสาธารณสุขไปจนกว่ากระทรวงสาธารณสุขจะประกาศผ่อนคลาย