‘แพลนบี’ คลายกังวลคดีฟ้องร้อง ลุยประมูลงานสมาคมกีฬาบอลฯ
กลายเป็นเรื่องราววุ่นๆ ที่เกิดขึ้นในสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย หลัง “ทนายอ๊อด” ภีมเดช อมรสุคนธ์ ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
กรณียื่นฟ้อง "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และพวกรวม 5 คดี เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา จนเป็นข่าวดังไปทั้งประเทศ
แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวงการลูกหนัง ดูห่างไกลจากแวดวงตลาดเงินตลาดทุน แต่ปรากฏว่ามีชื่อของบริษัทจดทะเบียนเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะมีการฟ้องร้องว่า "บิ๊กอ๊อด" เอื้อประโยชน์ให้กับ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB เข้ามาบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ บริษัท พรีเมียร์ลีก (ไทยแลนด์) จำกัด จนทำให้เกิดความเสียหายกับสมาคมฯ
โดยอ้างว่า "แพลนบี" ไม่มีหนังสือค้ำประกันจากธนาคารพาณิชย์ หรือ แบงค์การันตี มาให้สมาคมในวันที่ยื่นประมูลเพื่อเข้าบริหารสิทธิเมื่อปี 2560 แต่กลับได้สัญญาไป ทันทีที่มีข่าวนี้ออกมาส่งผลกระทบโดยตรงกับหุ้น PLANB ถูกถล่มขายหนัก ในการซื้อขายเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2563 ราคาหุ้นทิ้งดิ่ง 9.85% มาปิดที่ 5.96 บาท หรือ ลดลง 0.65 บาท จากวันก่อน
จนช่วงค่ำวันนั้นบริษัทต้องรีบออกมาชี้แจ้งข้อมูลกับนักวิเคราะห์ผ่าน Conference Call ซึ่งยืนยันว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนประมูลทุกอย่าง ได้ยื่นแบงก์การันตีตามที่กำหนด และแบ่งรายได้ให้กับสมาคมเกินกว่า Minimum Guarantee มาโดยตลอด
ต่อมาวันที่ 3 ก.พ. บริษัทได้ชี้แจงถึงข่าวที่เกิดขึ้นกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ระบุว่า ได้ยื่นซองประมูลพร้อมหนังสือค้ำประกันของธนาคารไทยพาณิชย์จำนวน 450 ล้านบาท ให้กับสมาคมฯ และ บริษัท พรีเมียร์ลีก (ไทยแลนด์) จำกัด อีก 450 ล้านบาท ตามที่หนังสือชี้ชวนระบุไว้ และบริษัทชนะประมูลหลังเสนอผลตอบแทนสูงสุดจากผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด 3 ราย
และปฏิเสญว่าบริษัทไม่ได้รับค่าบริหารจัดการสิทธิประโยชน์จำนวน 136 ล้านบาท จากการลงนามสัญญาย้อนหลัง โดยใช้สัญญาของผู้รับสัมปทานเดิม บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ SPORT ตามที่มีการกล่าวอ้าง และบริษัทเตรียมดำเนินการทางกฎหมาย รวมทั้งเรียกค่าเสียหายตามสิทธิต่อไป
เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นจังหวะเดียวกันกับการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งในครั้งนี้มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งขอชิงตำแหน่งทั้งหมด 3 ราย ได้แก่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ คนปัจจุบัน, นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฯ และ ดร.ภิญโญ นิโรจน์
แต่ปรากฎว่า นายวรวีร์ ถูกการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ตัดสิทธิ์หลังขาดคุณสมบัติตามระเบียบข้อบังคับ เนื่องด้วยเคยถูกสมาคมฯ ฟ้องร้อง และเคยถูกคำสั่งลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการกีฬาฟุตบอล ส่วนกรณีของ พล.ต.อ.สมยศ ที่มีคำขอให้ กกท. พิจารณาคุณสมบัติเนื่องจากมีคดีฟ้องร้องทำผิดข้อบังคับสมาคมฯ โดยศาลรับฟ้องแล้ว แต่คดียังไม่สิ้นสุด จึงถือว่ายังไม่ได้กระทำอะไรให้เกิดความเสียหายแก่สมาคมฯ
สุดท้ายแล้วเหลือผู้ผ่านคุณสมบัติแค่ 2 ราย และผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา ไม่พลิกโผ หลัง พล.ต.อ.สมยศ ชนะการเลือกตั้งได้นั่งเก้าอี้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต่อเป็นสมัยที่ 2 เฉือนชนะคู่แข่ง ดร.ภิญโญ ไปได้อย่างถล่มทลาย 51 ต่อ 17 เสียง และมีบัตรเสียง 1 คะแนน
เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาแบบนี้ถือเป็นโมเมนตัมบวกช่วยจุดพลุหุ้น PLANB กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยวันนั้นราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 6.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 4.51% เพราะมีลุ้นสูงมากที่จะได้ต่อสัญญากับสมาคมฯ จากสัญญาปัจจุบันที่จะครบกำหนดในเดือน ธ.ค. นี้ เนื่องจากที่ผ่านมาผลงานเข้าตา สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับสมาคมฯ และรู้จักคุ้นเคยมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับทีมผู้บริหาร
ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า หลัง พล.ต.อ.สมยศ ได้รับตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ สมัย 2 วาระ 4 ปี ถือเป็น sentiment เชิงบวกต่อหุ้น PLANB ช่วยคลายความกังวลจากประเด็นที่มีการฟ้องร้องและพาดพิงถึงบริษัทก่อนหน้านี้ ขณะที่พื้นฐานผลประกอบการยังโตเด่น กำไรไตรมาส 4 ปี 2562 ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง คาดดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 202 ล้านบาท ราว 10%
และคาดกำไรปี 2563 โต 41% เป็น 1,026 ล้านบาท โดยธุรกิจหลักสื่อโฆษณานอกบ้าน สื่อในระบบขนส่งมวลชน และธุรกิจสื่อสนามบิน ยังขยายตัวดี และจะรับรู้รายได้จากโครงการใหญ่ที่มีมูลค่าสูงได้แก่ สิทธิในการบริหารสื่อโฆษณาใน 7-Eleven จำนวน 2,000 สาขา ทยอยติดตั้งไตรมาสละ 500 สาขา มูลค่าราว 525 ล้านบาท และรายได้จากการได้ลิขสิทธิ์การฉายงานโอลิมปิคมูลค่าราว 480 ล้านบาท